ความคาดหวังของนักกีฬาที่มีต่อการพัฒนาทีมฟุตซอลลีก ดิวิชั่น 1 ในประเทศไทย

Main Article Content

บวรนท สุวรรณพันธ์
ดิฏฐชัย จันทร์คุณา

บทคัดย่อ

       การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาระดับความคาดหวังของนักกีฬาที่มีต่อการพัฒนาทีมฟุตซอลลีก
ดิวิชั่น 1 ในประเทศไทย และ (2) เปรียบเทียบระดับความคาดหวังของนักกีฬาที่มีต่อการพัฒนาทีมฟุตซอลลีก ดิวิชั่น 1 จำแนกตามข้อมูลส่วนบุคคล คือ อายุ ประสบการณ์ในการเล่นฟุตซอลลีก และรายได้เฉลี่ยต่อเดือน การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ ประชากรที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขันฟุตซอลลีก ดิวิชั่น 1 ในประเทศไทย  ฤดูกาล 2017  มีจำนวน 200 คน โดยการกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างของ เครจซี่และมอร์แกน ได้กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 136 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม มีค่าความเชื่อมั่นอยู่ที่ระดับ 0.90 สถิติที่ใช้
ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที การทดสอบค่าเอฟ
โดยกำหนดนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05  และการเปรียบเทียบความแตกต่างรายคู่ด้วยวิธี (LSD)


       ผลการวิจัยพบว่า (1) ระดับความคาดหวังของนักกีฬาที่มีต่อการพัฒนาทีมฟุตซอล ทั้ง 4 ด้าน ที่ประกอบด้วย ด้านค่าตอบแทน และสวัสดิการ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.34 ด้านการบริหารงานบุคลากรของสโมสร มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.33 ด้านการฝึกซ้อม และแข่งขัน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.33 และด้านบริหารจัดการสโมสร มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.29
มีค่าเฉลี่ยของความคาดหวังอยู่ในระดับมากที่สุด และ (2) ผลการเปรียบเทียบระดับความคาดหวังของนักกีฬาที่มีต่อการพัฒนาทีมฟุตซอลทั้ง 4 ด้าน ใน 3 ด้าน คือ อายุ ประสบการณ์ รายได้ มีความแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญ
ที่ระดับ 0.05 โดยมีการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยรายคู่เกี่ยวกับนักกีฬาที่มีอายุต่างกัน ในเรื่องค่าตอบแทน และสวัสดิการ   มีค่าเฉลี่ยของระดับความคาดหวังของนักกีฬาที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ด้านค่าตอบแทน และสวัสดิการ มีค่าเฉลี่ยสูงสุด แตกต่างจากนักกีฬากลุ่มอายุอื่นๆ นักกีฬาที่มีประสบการณ์ในการเล่นฟุตซอลลีก 6 ปีขึ้นไป มีค่าเฉลี่ยของระดับความคาดหวังของนักกีฬาในเรื่องการฝึกซ้อม และแข่งขัน แตกต่างจากกลุ่มนักกีฬาที่มีประสบการณ์ในการเล่นฟุต ซอลลีกกลุ่มอื่นๆ และนักกีฬาที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 15,001 - 20,000 บาท มีค่าเฉลี่ยของระดับความคาดหวังของนักกีฬา ในด้านค่าตอบแทน และ สวัสดิการแตกต่างจากกลุ่มนักกีฬาที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนกลุ่มอื่น ๆ

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กองพัฒนาบุคลากรกีฬา ฝ่ายพัฒนาบุคลากรกีฬาและการทะเบียน การกีฬาแห่งประเทศไทย. (2549). หลักสูตรผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอลระดับชาติ ขั้นต้น. กรุงเทพฯ : การกีฬาแห่งประเทศไทย
ทวีทรัพย์ เขยผักแว่น. (2555). รูปแบบบริหารจัดการกีฬาฟุตซอลอาชีพในประเทศไทย. วิทยานิพนธ์ (บัณฑิตวิทยาลัย สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การออกกำลังกาย และกีฬา). มหาวิทยาลัยบูรพา.
นวลจันทร์ เพิ่มพูนรัตนกุล. (2540). ความคาดหวังของผู้เรียนต่อโครงการยกระดับความรู้พื้นฐานสำหรับคนผู้ใหญ่บ้านและผู้นำท้องถิ่น ในจังหวัดสุพรรณบุรี. ปริญญานิพนธ์การศึกษา มหาบัณฑิต, สาขาการศึกษาผู้ใหญ่, บัณฑิตวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
พัชรี มหาลาภ. (2538). ทฤษฎีและแนวคิดเกี่ยวกับความคาดหวัง. ค้นวันที่ 16 มีนาคม 2560, เข้าถึงได้จากhttps://www.novabizz.com/NovaAce/Behavior/Expectancy_Theory.htm ยุทธกร ไพรวงษ์. (2546). สภาพ และปัญหาการเตรียมทีมของสโมสรฟุตบอลที่เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลดีวิชั่น 1 ประจำปี 2546.
ศิริวรรณ เสรีรัตน์ และคณะ. (2545). องค์การและการจัดการ. กรุงเทพฯ : ธรรมสาร.
สมลักษณ์ เพชรช่วย. (2540). ความคาดหวังในการเรียนการศึกษาสายสามัญ วิธีเรียนทางไกลของผู้ใช้แรงงานในโรงงานอุตสาหกรรม จังหวัดระยอง. ปริญญานิพนธ์การศึกษา มหาบัณฑิต, สาขาวิชาการศึกษาผู้ใหญ่, บัณฑิตวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร.
อัญชลี อ่านวรุฬหวาณิช. (2539). ทฤษฎีและแนวคิดเกี่ยวกับความคาดหวัง. ค้นวันที่ 16 มีนาคม 2560,เข้าถึงได้จากhttps://www.novabizz.com/NovaAce/Behavior/Expectancy_Theory.htm
Clay, R. (1988). Chambers English Dictionary. Great Britain: bunay suffolk Ltd.
Getzels V.;et al., (1974). ทฤษฎีความคาดหวัง. ค้นวันที่ 16 มีนาคม 2560, เข้าถึงได้จากhttps://www.novabizz.com/NovaAce/Behavior/Expectancy_Theory.htm
Richard Beckhard. (1969). Organization Development : Strategies and Models. Reading, (p.9.). Mass: Addison-Wesley Publishing Co.,
Vroom, H Victor. (1964). Work and Motivation. Now York : Wiley and Sons Inc.
Warner, B. (1982). Organization Development. A Normative View, by W.Warner Burke. Reading, MA: Addison-Wesley.
Wendell, F. (1969). Organization development: objectives, assumption, andstrategies. California Management Review 12: 23-34.