รูปแบบการบริหารและจัดการเครือข่ายการศึกษาที่มีประสิทธิภาพของมหาวิชชาลัยพุทธเศรษฐศาสตร์ (ศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน) เพื่อการสืบศิลป์แผ่นดินล้านนา

Main Article Content

ศันสนีย์ อินสาร
สมเกียรติ ตุ่นแก้ว
สุวดี อุปปินใจ
ประเวศ เวชชะ

บทคัดย่อ

การวิจัยเรื่อง รูปแบบการบริหารและจัดการเครือข่ายการศึกษาที่มีประสิทธิภาพของมหาวิชชาลัย
พุทธเศรษฐศาสตร์ (ศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน)เพื่อการสืบศิลป์แผ่นดินล้านนา มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาองค์ประกอบของเครือข่ายเพื่อการบริหารและจัดการเครือข่ายการศึกษาที่มีประสิทธิภาพของมหาวิชชาลัย
พุทธเศรษฐศาสตร์(ศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน) เพื่อการสืบศิลป์แผ่นดินล้านนา และ2) พัฒนารูปแบบการบริหารและจัดการเครือข่ายการศึกษาของมหาวิชชาลัยพุทธเศรษฐศาสตร์ (ศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน)
เพื่อการสืบศิลป์แผ่นดินล้านนา


กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย จำนวน 70 คน ได้แก่ ผู้อำนวยการโรงเรียน จำนวน  5 คน ครูผู้รับผิดชอบงานดนตรีกวีศิลป์ จำนวน 35 คน ปราชญ์ชาวบ้านในเครือข่ายของมหาวิชชาลัยพุทธเศรษฐศาสตร์ (ศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน) จำนวน 10 คน และผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 20 คน โดยวิธีการเลือกตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive Sampling)


เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสนทนากลุ่มแบบตรวจสอบและยืนยันองค์ประกอบของเครือข่าย แบบสอบถามความคิดเห็นและแบบประเมินความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของรูปแบบ สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน


ผลการวิจัยพบว่า


  1. องค์ประกอบของเครือข่ายประกอบด้วย 9 องค์ประกอบ คือ 1) การมีปฏิสัมพันธ์เชิงแลกเปลี่ยน
    (=4.25, S.D. = .635) 2) การมีวิสัยทัศน์ร่วม (=4.21, S.D. = .614)  3) การมีส่วนร่วม (=4.28,S.D. = .612)
    4) ความไว้วางใจ (=4.33, S.D. = .620) 5) การสร้างพันธกรณี (=4.30, S.D. = .633) 6)ความสัมพันธ์และความต่อเนื่อง (=4.32, S.D. = .628) 7) ผู้นำเครือข่าย (=4.40, S.D. = .604) 8) สมาชิกของเครือข่าย (=4.26, S.D. = .611) และ 9) การพัฒนาสมาชิก (= 4.24, S.D. = .651) ผลการตรวจสอบและยืนยันองค์ประกอบโดยผู้ทรงคุณวุฒิ พบว่า องค์ประกอบของเครือข่ายมีความเหมาะสมและสอดคล้องในทุกองค์ประกอบและตัวชี้วัด

  2. การพัฒนารูปแบบการบริหารและจัดการเครือข่ายการศึกษาที่มีประสิทธิภาพของมหาวิชชาลัยพุทธเศรษฐศาสตร์ (ศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน) เพื่อการสืบศิลป์แผ่นดินล้านนาประกอบด้วย 1) วัตถุประสงค์ของรูปแบบ 2) ระบบและกลไกของรูปแบบ 3) วิธีการดำเนินงานของรูปแบบ และ 4)การประเมินผลรูปแบบ

 

Downloads

Download data is not yet available.

Article Details

บท
บทความวิจัย (Research Article)

References

กระทรวงวัฒนธรรม. สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ. (2553). ศิลปินแห่งชาติ พุทธศักราช 2552. กรุงเทพฯ: กระทรวงวัฒนธรรม.

กระทรวงศึกษาธิการ. (2554). การประกันคุณภาพของสถานศึกษา. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว.

จิรภัทร มหาวงค์, วิทยา จันทร์ศิลา และทำรงลักษณ์ เอื้อนครินทร์. (2559). การพัฒนารูปแบบการบริหารเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการของโรงเรียนในถิ่นทุรกันดารบนเขตพื้นที่สูง.วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร, 18(4), 114-127.

ชาญทนงค์ บุญรักษา, วิทยา จันทร์ศิลา, สำราญ มีแจ้ง, และจิติมา วรรณศรี. (2557). รูปแบบการบริหารการใช้ทรัพยากรร่วมกันเพื่อการจัดการศึกษา ระดับปริญญาตรีในสถาบันการอาชีวศึกษา. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร, 16(3),147-159.

ทิศนา แขมณี. (2550). แบบแผนและเครื่องมือการวิจัยทางการศึกษา. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

บุญชม ศรีสะอาด. (2554). การวิจัยเบื้องต้น. (พิมพ์ครั้งที่ 9). กรุงเทพฯ: สุวิริยาสาสน์.

บุญเรียง สิทธิ์ทองสี. (2557). รูปแบบการบริหารงานกลุ่มเครือข่ายสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา. (วิทยานิพนธ์การศึกษาดุษฎีบัณฑิต,สาขาวิชาการบริหารการศึกษามหาวิทยาลัยนเรศวร).

พิสิฐ เทพไกรวัล. (2554). การพัฒนารูปแบบเครือข่ายความร่วมมือเพื่อคุณภาพการจัดการศึกษาในโรงเรียน ประถมศึกษาขนาดเล็ก. (วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต, มหาวิทยาลัยขอนแก่น)

ไพฑูรย์ สินลารัตน์ และศิริมาศ โกศัลย์พิพัฒน์. (2553). มองข้ามโลกาภิวัตน์ : กระบวนทัศน์ใหม่ในการ บริหารการศึกษา ใน ไพฑูรย์ สินลารัตน์.ผู้นำเชิงสร้างสรรค์และผลิตภาพ: กระบวนทัศน์ใหม่ และผู้นำใหม่ทางการศึกษา. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

มาเรียม นิลพันธุ์. (2549). วิธีวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์และสังคมศาสตร์. นครปฐม: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์.

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย. (2560). ราชกิจจานุเบกษา, เล่มที่ 134 ตอนที่ 40 ก. หน้า 1 - 90. สืบค้นจาก http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/A/040/1.PDF

วิสิทธิ์ศักดิ์ ชัยเกิด. (2559). การพัฒนารูปแบบการจัดการเครือข่ายความร่วมมือเพื่อการยกระดับคุณภาพการศึกษา ของโรงเรียนประถมศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. ดุษฎีบัณฑิต, มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.

สรวง วรอินทร์. (2557). รูปแบบการบริหารเครือข่ายความร่วมมือเพื่อส่งเสริมระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนสังกัดสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต, สาขาวิชาการบริหารการศึกษามหาวิทยาลัยนเรศวร).

สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร. (2560). บทบัญญัติด้านการศึกษาตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560. สืบค้นจาก https://library2.parliament.go.th/ejournal/content_af/2561/mar2561-3.pdf

สำนักนายกรัฐมนตรี. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ. (ม.ป.ป.). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 และ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2553. สืบค้นจาก https://person.mwit.ac.th/01-Statutes/NationalEducation.pdf

สำนักบริหารงานการมัธยมศึกษาตอนปลาย. (2553). คู่มือการสร้างเครือข่ายร่วมพัฒนาและการส่งเสริมศักยภาพผู้เรียน. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.

สุระพี อาคมคง. (2550). รูปแบบความร่วมมือขององค์การบริหารส่วนตำบล ในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในเขตภาคเหนือตอนล่าง. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยรามคำแหง.

Eisner, E. W. (1994). Cognition and Curriculum Reconsidered. New York: Teachers College Press.

Good, C. V. (1973). Dictionary of Education. New York: McGraw-Hill Book.

Husen, T., & Postlethwaite, T. N. (1994). The International Encyclopedia of Education. (2nd ed.). Great Britain: Pergamon Press.

Keeves, J. P. (1988). Model and Model Building in Education Research, Methodology and Measurement an International Handbook. Oxford: Pergamon Press.

Schwirian, P. M. (1987). Evaluation the performance of nurse: A multidimensional approach.Nursing Research,27(6), 347 - 351.