Development Guidelines for Developing Educational Research Potential of Students in Faculty of Education, Phuket Rajabhat University
DOI:
https://doi.org/10.14456/psruhss.2022.9Keywords:
Research potential, Education researchAbstract
The purposes of this research were to develop educational research potential of Fourth-Fifth Year students in Faculty of Education, Phuket Rajabhat University. The sample of this research are 300 Fourth-Fifth Year students and 10 research lecturers or research advisors. The research instruments are questionnaire and interview forms, and data analyzed by mean and standard deviation. The research found that (1) the students had little knowledge of research. (2) they are had good skills, and 122 students got A grade for 40.67 percent, and;
(3) The students had high attitude in research. The developing educational research potential is training for improve research knowledge and methodology by research guess speaker or trainers aside from classroom. The faculty should have been development research potential training plan for students as always and training title should be covering as follow (1) research thinking as systematic thinking, scientific thinking and creative thinking (2) research proposal creativities (3) communication practice as speaking, reading, and writing (Thai/English)
(4) presentation practice (Thai/English) (5) academic journal practice (6) teamwork or coach co-working practice (7) a good necessarily or attitude creativities (8) Knowledge Management: KM practice, that training could be improve developing educational research potential of students. The guidelines for developing educational research potential in the first is research knowledge, the second is research attitude and the last one is research skill. That guidelines could have improving manage instruction in terms of student-centered approach, students’ need, and more learning by practices for increase research skill under the scope and period of time by teacher, and should be fostering a good research attitude especially research useful and research value. Moreover, the research lecturers should integrate across disciplines in order to improve students for more efficiency research potential.
References
กาญจนา ตระกูลวรกุล. (2548). อิทธิพลของปัจจัยเกี่ยวกับลักษณะครูและการวิจัยปฏิบัติการของครูที่มีต่อโอกาสการเพิ่มสมรรถภาพการวิจัย (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
โชติกา ภาษีผล. (2559). การวัดและการประเมินผลการเรียนรู้. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ทิพวรรณ ภัทรนุสรณ์. (2556). อิทธิพลของการเสริมพลังอำนาจครูที่มีต่อผลผลิตของการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนผ่านสมรรถนะการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ทิศนา แขมมณี. (2559). ศาสตร์การสอน: องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ (พิมพ์ครั้งที่ 20). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
นิรชรา ไชยแสง, และศศิธร ดลปัดชา. (2555). ความพึงพอใจความผาสุกของบุคลากรคณะศึกษาศาสตร์ ประจำปีการศึกษา 2554 (รายงานการวิจัย). ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
ประกาศ เรื่อง ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2561-2580). (2561, 13 ตุลาคม). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 135 ตอนที่ 82 ก. หน้า 1-71.
ประสาท เนืองเฉลิม. (2561). วิจัยปฏิบัติการทางการเรียนการสอน. ขอนแก่น: คลังนานาวิทยา.
ประเสริฐ เรือนนะการ, และฐิติยา เรือนนะการ. (2561). การพัฒนาศักยภาพด้านการวิจัยของครูโรงเรียนกระบากวิทยาคาร จังหวัดมหาสารคาม. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 12(3), 295-308.
ยุพิน กองรักษา. (2552). พฤติกรรมของครูนักวิจัย: พหุกรณีศึกษาของครูนักวิจัยในจังหวัดศรีสะเกษ (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
รวิรัตน์ โสธรพิทักษ์กุล. (2557). รูปแบบการประยุกต์งานวิจัยเพื่อการบริหารโรงเรียน (ปริญญานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต). นครปฐม: มหาวิทยาลัยศิลปากร.
วรรณะ บรรจง. (2554). เอกลักษณ์ครูนักวิจัย: ความต่อเนื่องในการพัฒนา. วารสารวิชาการศิลปศาสตร์ประยุกต์, 4(2), 71-81.
วลัยรัตน์ สุวรรณชัยรบ. (2558). การพัฒนาศักยภาพการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูโรงเรียนบ้านอูนดง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 2 (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). สกลนคร: มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.
วิไลวรรณ จันน้ำใส. (2555). ปัจจัยที่สัมพันธ์กับสมรรถนะการวิจัยในชั้นเรียนของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 30 (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). ปทุมธานี: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2559). รายงานการวิจัยแนวโน้มภาพอนาคตการศึกษาและการเรียนรู้ของไทยในปี พ.ศ. 2573. กรุงเทพฯ: 21 เซ็นจูรี่.
สำนักงานสถิติแห่งชาติ. (ม.ป.ป.). เทคนิคการสุ่มตัวอย่างและการประมาณค่า. กรุงเทพฯ: สำนักงานฯ.
สุภางค์ จันทวานิช. (2554). วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ (พิมพ์ครั้งที่ 19). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
อรอุมา รุ่งเรืองวณิชกุล. (2556). การพัฒนารูปแบบการเสริมสร้างสมรรถนะครูนักวิจัยด้วยการบูรณาการกระบวนการเรียนรู้ สำหรับข้าราชการครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 2 (วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
อุดมพร ทองคำ. (2555). การวิจัยเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาศักยภาพการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูโรงเรียนส่องดาววิทยาคม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษา เขต 23 (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). สกลนคร: มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.
Gagnon, G. W., & Collay, M. (2001). Designing for learning: Six elements in constructivist classrooms. California: Corwin Press.
Yamane, T. (1973). Statistic: An introduction analysis (3rd ed.). New York: Harper & Row.
Downloads
Published
How to Cite
Issue
Section
License
Copyright (c) 2020 Humanities and Social Sciences Journal of Pibulsongkram Rajabhat University
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
Any articles or comments appearing in the Journal of Humanities and Social Sciences, Rajabhat Phibulsongkram University, are the intellectual property of the authors, and do not necessarily reflect the views of the editorial board. Published articles are copyrighted by the Journal of Humanities and Social Sciences, Rajabhat Phibulsongkram University.