การพัฒนากระบวนการอบแห้งปลากุเลาเค็มด้วยโรงอบแสงอาทิตย์แบบพาสซีฟ วิสาหกิจแปรรูปปลากุเลาเค็ม อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี

บทคัดย่อ

วิสาหกิจแปรรูปปลากุเลาเค็ม อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี มีปัญหาด้านการผลิตปลากุเลาเค็มเนื่องจากเป็นการตากแห้งด้วยแดดตามธรรมชาติ รอบการผลิต 2- 5 สัปดาห์และมีฝุ่นละอองและแมลงรบกวน งานวิจัยนี้จึงพัฒนากระบวนการแปรรูปปลากุเลาเค็มโดยการพัฒนาโรงอบแสงอาทิตย์แบบพาสซีฟด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมของวิสาหกิจแปรรูปปลากุเลาเค็ม สถาบันการศึกษา หน่วยงานภาครัฐในพื้นที่และประชาชนทั่วไป ดังนี้ 1) การวิเคราะห์ปัญหาการตากแห้งและแนวทางการออกแบบและสร้างโรงอบแสงอาทิตย์แบบพาสซีฟ 2) การพัฒนาและทดลองใช้งานโรงอบแสงอาทิตย์แบบพาสซีฟอบแห้งปลากุเลาเค็ม และ 3) การวิเคราะห์ความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ของการผลิตปลากุเลาเค็มด้วยโรงอบแสงอาทิตย์แบบพาสซีฟและคุณภาพของปลากุเลาเค็ม โดยโรงอบแสงอาทิตย์แบบพาสซีฟ กว้าง 200 ยาว 100 สูง 140 เซนติเมตร มีอุณหภูมิในช่วง 38.2-68.7 องศาเซลเซียส เฉลี่ย 54.5±3.2 องศาเซลเซียส มีแผงรับรังสีดวงอาทิตย์ขนาด กว้าง 200 ยาว 250 สูง 20 เซนติเมตร ติดตั้งอยู่ด้านหลังของห้องอบแห้งมีอุณหภูมิในช่วง 32.6-83.1 องศาเซลเซียส เฉลี่ย 57.9±3.2 องศาเซลเซียส โรงอบแสงอาทิตย์แบบพาสซีฟสามารถบรรจุปลากุเลาเค็มได้ 152 ตัว ใช้เวลาอบแห้ง 9 วันต่อรอบ กำลังการผลิตปลากุเลาเค็มเพิ่มขึ้นร้อยละ 33.3 เมื่อเปรียบเทียบกับการตากแห้งด้วยแดดตามธรรมชาติส่งผลให้รายได้สุทธิของกลุ่มวิสาหกิจแปรรูปปลากุเลาเค็มเพิ่มขึ้น 90,440 บาทต่อเดือน และสามารถคืนทุนได้ในระยะเวลา 2 เดือน โดยที่คุณภาพของปลากุเลาเค็ม ด้านสี ความแข็ง วอเตอร์แอคทีวิตี้ โปรตีนและเชื้อสแตปฟิโลคอคคัส ออเรียสไม่แตกต่างกันกับการตากแดดตามธรรมชาติ