การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบ “PLEARN” ผ่านพอดคาสต์ในระบบการศึกษาทางไกล
คำสำคัญ:
การศึกษาทางไกล, พอดคาสต์, รูปแบบการจัดการเรียนรู้ผ่านพอดคาสต์บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบ “PLEARN” ผ่านพอดคาสต์ในระบบการศึกษาทางไกล และ 2) ศึกษาผลการจัดการเรียนการสอนแบบ “PLEARN” ผ่านพอดคาสต์ในระบบการศึกษาทางไกล กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในงานวิจัย ได้แก่ นักศึกษาในระบบการศึกษาทางไกล มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช จำนวน 34 คน ที่ลงทะเบียนเรียนในชุดวิชา 16455 การสร้างสรรค์คอนเทนต์และสตรีมมิ่ง ภาคการศึกษา 2/65 ได้มาโดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) รูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบ “PLEARN” ผ่านพอดคาสต์ในระบบการศึกษาทางไกล 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้จากการเรียนรู้แบบ “PLEARN” ก่อนและหลังกิจกรรมแบบคู่ขนาน และ 3) แบบประเมินความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบ “PLEARN” สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การทดสอบค่าที ค่าเฉลี่ย ร้อยละ และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัย พบว่า 1) รูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบ “PLEARN” ผ่านพอดคาสต์ในระบบการศึกษาทางไกล ประกอบไปด้วย 6 องค์ประกอบ ประกอบไปด้วย (1) สื่อพอดคาสต์ (2) เนื้อหา (3) ขั้นตอนและกิจกรรมการเรียนรู้ (4) ผู้เรียน (5) ผู้สอน และ (6) การประเมินผล โดยมีขั้นตอนกิจกรรมการเรียนรู้ 5 ขั้นตอน ได้แก่ (1) เรียนรู้จากสื่อพอดคาสต์เพื่อการศึกษา (2) กระตุ้นการเรียนรู้ (3) การเรียนรู้เชิงรุก (4) สรุปการเรียนรู้ และ (5) แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ผลการประเมินรูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบ “PLEARN” ผ่านพอดคาสต์ในระบบการศึกษาทางไกลโดยผู้ทรงคุณวุฒิ ในภาพรวมด้านการนำไปประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนรู้ อยู่ในระดับมากที่สุด (M = 4.67, SD = 0.58) 2) ผลการจัดการเรียนการสอนแบบ “PLEARN” ผ่านพอดคาสต์ในระบบการศึกษาทางไกล พบว่า (1) ผลการเปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยการเรียนรู้ตามรูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบ PLEARN ผ่านพอดคาสต์ หลังกิจกรรมการเรียนรู้สูงกว่าก่อนทำกิจกรรมอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ (2) ผลการประเมินความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบ “PLEARN” ผ่านพอดคาสต์ในระบบการศึกษาทางไกล อยู่ในระดับมากที่สุด (M= 4.53, SD = 0.51)
เอกสารอ้างอิง
เขมณัฏฐ์ มิ่งศิริธรรม. (2560). รายงานการวิจัย เรื่อง การใช้สื่อผสมผสานในการศึกษาทางไกลระดับอุดมศึกษา. สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
ใจทิพย์ ณ สงขลา. (2561). การออกแบบการเรียนแนวดิจิทัล. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ชนินทร เพ็ญสูตร. (2561). พอดแคสต์ สื่อทางเลือกใหม่: กรณีศึกษาเปรียบเทียบระหว่างสหรัฐอเมริกาและไทย. วารสารวิชาการ กสทช., 3, 272-289.
นิษฐา หรุ่นเกษม. (2560). การเลือกและการสร้างสารสำหรับการสื่อสารชุมชน. ใน เอกสารการสอนชุดวิชาความรู้และทักษะการสื่อสารชุมชน (หน่วยที่ 4). มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
ปวรรัตน์ ระเวง. (2560). การรู้เท่าทันสื่อดิจิทัลของผู้ฟังรายการพอดคาสต์ [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์]. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
พูนสุข อุดม. (2554). การจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ที่กระตือรือร้น (ATLAS). วารสารศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี, 2(3), 1-15.
มูหาหมัด สาแลบิง และกัลยาณี เจริญช่าง นุชมี. (2560). ผลการเรียนรู้ด้วยพอดแคสต์เพื่อส่งเสริมทักษะการสื่อสารภาษามลายู สำหรับนักศึกษาปริญญาตรี. วารสารอัลฮิกมะฮฺ มหาวิทยาลัยฟาฏอนี, 7(13), 37-44. https://so01.tci-thaijo.org/index.php/HIKMAH/article/view/112344
Fietze, S. (2009). Podcast in higher education: Students usage behavior. In Proceedings of Ascilite Auckland 2009 (pp. 314-318).
Kay, R., & Kletskin, I. (2012). Evaluating the use of problem-based video podcasts to teach mathematics in higher education. Computers & Education, 59(2), 619-627. https://doi.org/10.1016/j.compedu.2012.03.007
Samuel-Azran, T., Laor, T., & Tal, D. (2019). Who listens to podcasts, and why?: The Israeli case. Online Information Review, 43(4), 482-495. https://doi.org/10.1108/OIR-04-2017-0119
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2024 มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1. ทรรศนะและข้อคิดเห็นใด ๆ ที่ปรากฏอยู่ในวารสาร ECT Education and Communication Technology Journal เป็นของผู้เขียนโดยเฉพาะ สำนักเทคโนโลยีการศึกษา มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และกองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วย
2. กองบรรณาธิการของสงวนลิขสิทธิ์ในการบรรณาธิการข้อเขียนทุกชิ้น เพื่อความเหมาะสมในการจัดพิมพ์เผยแพร่