ธรรมาภิบาล วัฒนธรรมองค์การ กับประสิทธิผลองค์การของหน่วยงานในสังกัด สำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
Abstract
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาระดับปัจจัยธรรมาภิบาล ระดับปัจจัยวัฒนธรรมองค์การ และระดับประสิทธิผลองค์การของหน่วยงานในสังกัดสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ 2) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ของปัจจัยธรรมาภิบาล ปัจจัยวัฒนธรรมองค์การ และปัจจัยประสิทธิผลองค์การของหน่วยงานในสังกัดสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ3) เพื่อศึกษาปัจจัยธรรมาภิบาล และปัจจัยวัฒนธรรมองค์การ ที่ร่วมกันทำนายประสิทธิผลองค์การของหน่วยงานในสังกัดสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและ4) เพื่อศึกษาปัญหา อุปสรรคและข้อเสนอแนะที่ส่งผลต่อประสิทธิผลองค์การของหน่วยงานในสังกัดสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ วิธีดำเนินการวิจัย เป็นการวิจัยแบบผสม โดยการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาวิจัย ได้แก่ ข้าราชการตำรวจระดับผู้กำกับการลงมา ในหน่วยงานสังกัดสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จำนวน 400 คน ใช้วิธีการจัดเก็บข้อมูล โดยแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปสำหรับวิจัยทางสังคมศาสตร์ ใช้หลักสถิติคำนวณหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ เพียร์สันสถิติการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน สำหรับการวิจัยเชิงคุณภาพ ใช้การสัมภาษณ์แบบเจาะลึก ผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จำนวน 14 คน โดยใช้แบบสัมภาษณ์แบบกึ่งมีโครงสร้าง วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา แล้วนำเสนอแบบพรรณนาความเรียง
ผลการวิจัยพบว่าระดับธรรมาภิบาล ระดับวัฒนธรรมองค์การ และระดับประสิทธิผลองค์การของหน่วยงานในสังกัดสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อยู่ในระดับสูง ปัจจัยด้านธรรมาภิบาล และปัจจัยด้านวัฒนธรรมองค์การ มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับประสิทธิผลองค์การของหน่วยงานในสังกัดสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยมีค่าระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.01ปัจจัยด้านธรรมาภิบาล และปัจจัยด้านวัฒนธรรมองค์การ สามารถร่วมกันทำนายประสิทธิผลองค์การของหน่วยงานในสังกัดสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ร้อยละ 78.7 โดยมีค่าระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.01
ABSTRACT
The research on “Good Governance, Organizational Culture and Organization Effectiveness of the Division Offices Attached to the Commissioner General, Royal Thai Police” is aimed to study the level of good governance factor, the level of cultural organization factor and the level of organization effectiveness in division offices attached to the Commissioner General of Royal Thai Office, as well as study the problems, obstacles, and give suggestions which improve the efficiency of such division officesin Thai Royal Police. The approach to the study were both quantitative and qualitative methods. The quantitative method, the sample used inthis studyinclude 400 police officials in superintendent position or lower in the Office of Commissioner General of Royal Thai Police. Data collection was done by using survey questionnaire. Analysis of data was done by using package program for social research. Principles in statistics were used to calculate percentage, means, standard deviation, Pearson Product-Moment Correlation Coefficients, and stepwise multiple regression analysis. Whereas in the qualitativemethod, an in-dept, semi-structured interview was conducted with the samples or 14 executives of the division offices attached to Commissioner General of Royal Thai Police. The data was analyzed by content analysis and was presented in the form of descriptive essay.
The results of the study showed that: The level of good governance, organizational culture, and organization effectiveness of division offices attached to Commissioner General of Royal Thai Police is rather high. Good governance factors and organizational culture factors are positively correlated with organization effectiveness of division offices attached to Commissioner General of Royal Thai Police at statistical significant level of 0.01. Good governance factors and organizational culture factors can be used together in predicting organizational effectiveness of division offices attached to Commissioner General of Royal Thai Police at the percentage of 78.7 at statistical significant level of 0.01