แรงจูงใจที่มีผลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของพนักงานบริษัทสรรพสินค้าเซ็นทรัลจํากัด สาขาเซ็นทรัลเฟสติวัลหาดใหญ่
DOI:
https://doi.org/10.14456/gjl.2025.18คำสำคัญ:
แรงจูงใจในการปฏิบัติงาน, ประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน, บริษัทสรรพสินค้าเซ็นทรัลจํากัด สาขาเซ็นทรัลเฟสติวัลหาดใหญ่บทคัดย่อ
บทความนี้วัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแรงจูงใจที่มีผลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน ของพนักงานบริษัทสรรพสินค้าเซ็นทรัลจํากัดสาขาเซ็นทรัลเฟสติวัลหาดใหญ่ จำนวน 108 คน โดยใช้แบบสอบถามในการเก็บรวบรวมข้อมูล สถิติที่ใช้ในการวิเคราะข้อมูล ได้แก่ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย วิเคราะห์สมการถดถอยพหุคูณแบบเป็นขั้นตอน (Stepwise multiple regression analysis) ผลการศึกษา พบว่า พนักงานบริษัทสรรพสินค้าเซ็นทรัลจํากัด สาขาเซ็นทรัลเฟสติวัลหาดใหญ่ มีแรงจูงใจในการปฏิบัติงานในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด(X̅ =4.46, S.D. = 0.313) โดยมีปัจจัยจูงใจอยู่ในระดับมากที่สุดและปัจจัยค้ำจุนหรือปัจจัย สุขศาสตร์อยู่ในระดับมากที่สุดเช่นกัน ประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของพนักงานภาพรวมอยู่ในระดับเห็นด้วยมากที่สุด( X̅ =4.73, S.D. = 0.345) และแรงจูงใจที่มีผลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของพนักงานบริษัทสรรพสินค้าเซ็นทรัลจํากัดสาขาเซ็นทรัลเฟสติวัลหาดใหญ่ ได้แก่ ด้านความรับผิดชอบ ด้านความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงาน และผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่าการส่งเสริมให้พนักงานรับผิดชอบต่อหน้าที่และงานที่ได้รับมอบหมาย สามารถกระตุ้นให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีขึ้น และส่งผลให้พนักงานรู้สึกมีคุณค่าและพร้อมที่จะทุ่มเทในการทำงาน ส่วนปัจจัยด้านความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงานสะท้อนถึงบทบาทของปัจจัยสุขศาสตร์ (Hygiene Factors) มีผลต่อความพึงพอใจในการทำงาน หากไม่มีความสัมพันธ์ที่ดี จะเกิดความไม่พอใจและส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน และสามารถใช้เป็นแนวทางสำหรับผู้บริหารในการพัฒนากลยุทธ์สร้างบรรยากาศการทำงานที่ส่งเสริมประสิทธิภาพในการทำงาน และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงวิชาการคือ การนำไปขยายองค์ความรู้ด้านแรงจูงใจในการปฏิบัติงาน โดยเฉพาะการประยุกต์ใช้ทฤษฎีปัจจัยจูงใจและสุขศาสตร์ (Two-factor Theory) ในบริบทของพนักงานสาขาธุรกิจค้าปลีก
Downloads
เอกสารอ้างอิง
กัลยา วานิชย์บัญชา. (2561). สถิติสำหรับงานวิจัย. กรุงเทพฯ: หจก.สามลดา.
ชมพูนุช สุภาพวานิช, สุภนิดา หนูช่วย, และสลิล กาจกำแหง. (2562). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงานทันตสาธารณสุขจังหวัดยะลา. วารสารเครือข่ายพยาบาลและการสาธารณสุขภาคใต้, 6(2).
ธัญญพัฒน์ โชติวรรธนะสิริ. (2566). แรงจูงใจในการปฏิบัติงานที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของข้าราชการกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น. Procedia of Multidisciplinary Research, 1(7).
นิติพล ภูตะโชติ. (2559). พฤติกรรมองค์การ. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์.
บุญชม ศรีสะอาด, (2560). การวิจัยเบื้องต้น. มหาสารคาม: ตักสิลาการพิมพ์.
เปรมปภัสร์ นามโฮง, ภูษิตย์ จารุจินดา, และปฏิมา รักพงษ์. (2565). หลักการจัดการทรัพยากรมนุษย์. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
ไพศาล วรคำ. (2561). การวิจัยทางการศึกษา. มหาสารคาม: ตักสิลาการพิมพ์.
มณฑล รอยตระกูล. (2546). แรงจูงใจที่ส่งผลการปฏิบัติงานของสรรพากรพื้นที่สาขา [วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต,
มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม].
เมลดา กลิ่นมาลี. (2563). ปัจจัยที่พยากรณ์แรงจูงใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ. วารสารมหาวิทยาลัยศิลปากร, 40(6).
HR Note Asia. (2019). การให้ความสำคัญกับบุคลากรในองค์กรช่วยส่งเสริมการเติบโตและการบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้. สืบค้นจาก https://www.hrnote.asia
Deci, E. L., & Ryan, R. M. (2000). Self-determination theory and the facilitation of intrinsic motivation, social development, and well-being. American Psychologist, 55(1), 68-78.
Maslow. A., (1943). A theory of human motivation. Psychological Review 50. N.Y.. McGraw-Hill.
Herzberg, F. (1966). Work and the nature of man. Cleveland: World Publishing Company.
Kotler, P., & Keller, K. L. (2016). Marketing management (15th ed.). Pearson Education Limited.
Robbins, S. P., & Judge, T. A. (2019). Organizational behavior (18th ed.). Pearson.
Yamane, T. (1973). Statistics: An introductory analysis. New York: Harper & Row.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารการบริหารปกครอง มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.




