การใช้ยุทธศาสตร์แบบไม่ใช้ความรุนแรงโดยกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง กรณีศึกษากลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในประเทศไทยและกลุ่มพลังปฏิวัติประชาชนในฟิลิปปินส์

บทคัดย่อ

This paper intends to understand more about The People’s Alliance for Democracy in Thailand and The People Power Revolution in the Philippines by analyzing those factors and circumstances which led to their ability to mobilize large numbers of people, and also those factors that led to the use of non–violence as a strategy. The study finds that changes in the political, social and economic environments in both countries resulted in a frame of collective action conducive to the mobilization of people as part of political movements. The study also shows that political situations and triggering factors can mobilize people and justify their political movements. In the cases described here, the key reasons why the groups were able to commit to large-scale, non-violent action, was that they were able to create a positive and conducive environment within the existing political sphere as well as gain huge political support, and this situation led to the development of political opportunity. 

บทความชิ้นนี้มุ่งที่จะทำความเข้าใจเกี่ยวกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อ ประชาธิปไตยในประเทศไทยและขบวนการปฏิวัติประชาชนในประเทศฟิลิปปินส์ โดย วิเคราะห์ถึงปัจจัยและสถานการณ์ที่นำมาสู่การระดมคนจำนวนมากและการไม่ใช้ความ รุนแรงในฐานะยุทธศาสตร์การเคลื่อนไหวทางการเมือง ผลจากการศึกษาพบว่า การ เปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมทางการเมือง เศรษฐกิจและสังคมมีผลต่อการสร้าง พฤติกรรมร่วมที่นำไปสู่การระดมมวลชน สถานการณ์และปัจจัยกระตุ้นในทางการเมือง มีส่วนช่วยในการปลุกระดมมวลคนและสร้างเหตุผลรองรับในการเคลื่อนไหวทาง การเมือง ซึ่งทำให้เข้าใจได้ว่าทำไมทั้งสองกลุ่มจึงสามารถระดมผู้คนได้เป็นจำนวนมาก และเลือกใช้แนวทางการไม่ใช้ความรุนแรงก็เพราะเนื่องมาจากความสามารถในการ สร้างสถานการณ์ทางการเมืองให้เป็นโอกาสทางการเมืองเชิงบวกต่อตนเองและการ สร้างแนวร่วมสนับสนุนได้เป็นจำนวนมาก