แนวทางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของชุมชนวัดไทรให้สามารถสร้างรายได้ในระดับที่พึ่งตนเองได้

Main Article Content

ชยาวัฒ เกียรติกมลมาลย์
สุรเกียรติ ธาดาวัฒนาวิทย์

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันในการดำเนินงานของชมรมพิทักษ์วัดไทรและศึกษาแนวทางในการพัฒนาทั้งด้านผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่เดิมและผลิตภัณฑ์ใหม่ของชุมชนวัดไทรให้สามารถสร้างรายได้ในระดับที่พึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืน เครื่องมือวิจัยเป็นแบบสัมภาษณ์และแบบสอบถาม ตัวอย่างวิจัยประกอบด้วย ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพัฒนาชุมชนวัดไทร ได้แก่ คนในชุมชนวัดไทร จำนวน 7 คน ตัวแทนวัดไทร 1 คน ตัวแทนสถาบันอุดมศึกษา 7 คน และผู้เข้าร่วมโครงการส่งเสริมความรู้และทักษะสำหรับพัฒนาผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นนักเรียน ผู้ปกครอง ครู และคนในพื้นที่ชุมชนวัดไทร จำนวน 84 คน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เนื้อหาและการวิเคราะห์ด้วยสถิติเชิงพรรณนา  ผลการศึกษาพบว่า


  1. สภาพปัจจุบันในการดำเนินงานของชมรมพิทักษ์วัดไทร ถึงแนวทางที่ทางวัดไทรต้องการพัฒนาเพื่อสร้างชุมชนให้สามารถพึ่งตนเองได้ พบว่า ทางชุมชนวัดไทรนำโดยชมรมพิทักษ์วัดไทรมีแนวคิดที่ชัดเจนในการพัฒนาชุมชนวัดไทรให้มีลักษณะของความเป็นวิสาหกิจที่สามารถพึ่งตนเองได้ โดยพัฒนาต่อยอดจากองค์ความรู้และทักษะที่ได้รับการถ่ายทอดกันภายในชุมชนจากผู้รู้ที่มีความรู้และประสบการณ์ต่างๆ จากนั้นจึงพัฒนาขึ้นเป็นผลิตภัณฑ์ โดยในระยะเริ่มแรกจะมีผลิตภัณฑ์ในกลุ่มของผลิตภัณฑ์สมุนไพร เช่น สบู่ น้ำอบ แชมพู ครีมนวดผม พิมเสนน้ำ ยาดม ยาหม่อง และสเปรย์ล้างมือ เป็นต้น สิ่งที่ทางคณะวิจัยได้ให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น ได้แก่ การพัฒนาตราสินค้าและบรรจุภัณฑ์สำหรับใช้ในการจำหน่ายในนามของ “Watsai” ซึ่งทางชุมชนวัดไทรได้นำไปใช้กับผลิตภัณฑ์ตัวอื่นๆ ของชุมชนด้วย นอกจากนี้คนในชุมชนยังได้พัฒนาช่องทางที่ใช้ในการประชาสัมพันธ์การจัดการอบรมในหัวข้อต่างๆ ผ่าน Facebook pages: วัดไทรบางโคล่ มาเป็นช่องทางในการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์เพื่อการจำหน่ายอีกด้วย อย่างไรก็ตามคณะวิจัยยังพบเห็นประเด็นที่ทางชุมชนและคณะวิจัยเห็นพ้องกันในสิ่งที่ควรได้รับการพัฒนา คือ มิติด้านการตลาดและการขายที่ควรมีการส่งเสริมเรื่องของการใช้สื่อสังคมออนไลน์ (social media) เพื่อใช้เป็นเครื่องมือทางการตลาดเบื้องต้นและมีข้อเสนอให้มีการปรับปรุงตราสินค้าให้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าในวงกว้างมากยิ่งขึ้น

  2. ผลการศึกษาแนวทางในการพัฒนาทั้งด้านผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่เดิม และผลิตภัณฑ์ใหม่ของชุมชนวัดไทรให้สามารถสร้างรายได้ในระดับที่พึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืน พบว่า ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายได้ร่วมเสนอให้มีการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมความรู้และทักษะในการที่จะสามารถนำมาสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน เพื่อนำความรู้ที่ได้ไปต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่เดิมหรือผลิตภัณฑ์ใหม่ให้มีความหลากหลาย และสร้างมูลค่าเพิ่มได้ ซึ่งทางคณะวิจัยได้จัดโครงการส่งเสริมทักษะอาชีพให้กับคนในชุมชน โดยใช้พื้นที่ของโรงเรียนวัดไทรเป็นพื้นที่ในการจัดกิจกรรม ในรูปแบบของโครงการส่งเสริมความรู้และทักษะสำหรับพัฒนาผลิตภัณฑ์ จำนวน 6 ครั้ง มีผู้เข้าร่วมทั้งสิ้น 84 คน ผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมกิจกรรม พบว่า ความพึงพอใจโดยรวมต่อการจัดกิจกรรม อยู่ที่ระดับมากที่สุด ( = 4.34) เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านที่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีความพึงพอใจมากที่สุด คือด้านการนำความรู้ไปใช้ (  = 4.48) รองลงมาคือด้านสถานที่และระยะเวลา (  = 4.35) และ ด้านผู้ให้ความรู้ (  = 4.30) ตามลำดับ

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
เกียรติกมลมาลย์ ช., & ธาดาวัฒนาวิทย์ ส. . (2022). แนวทางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของชุมชนวัดไทรให้สามารถสร้างรายได้ในระดับที่พึ่งตนเองได้ . วารสารวิทยาลัยดุสิตธานี, 16(2), 80–98. สืบค้น จาก https://so01.tci-thaijo.org/index.php/journaldtc/article/view/262403
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

Community Enterprise Promotion Act, B.E. 2548. (2005). Government Gazette 122 (Part 6 A), 319-327.

Community Development Department. (2016). Strategic Plan of the Department of Community Development 2017-2021. Bangkok: Planning Division, Department of Community Development.

Office for Accreditation and Quality Assessment. (2007). Higher Education External Quality Assessment Manual. Bangkok: QUALITY THAI TRADING CO., LTD.

Office of the Council of State. (2005). Announcement of the Community Enterprise Promotion Board Regarding the qualifications and criteria of community enterprises.[Online]: Retrieving from: https://www2.moac.go.th/ download/pos%207607.pdf

Phattaraphanpee, T. (2021). The development of community occupation groups model to community-based tourism in Tumbol Bangpla Bangplee district Samutprakarn province. Research Report received a Fiscal Budget of Thailand Science Research and Innovation (TSRI) Year 2020.

Sangayotin, S (2020). Potential Development of Community Enterprises in the Southern Border Provinces to enhance competitiveness. Report of Graduate School of Commerce (GSC), Burapha University.

United Nations. (2009). Quality of Life in the ESCAP Region. Economic and Social Commission for Asia and the Pacific.

Volunteer Bank. (2010). Wat Sai Protection Club: Volunteer time. Retrieved from: https://www.jitarsabank.com/organisations/profile/349

Watsai. (2014). Message from the hearts of the people of Wat Sai. Retrieved from: http://www.webwat.in.th/_files_school/10310350/data/10310350_1_20140717-083501.pdf