รูปแบบการจัดการแข่งขันกีฬาว่ายน้ำระดับสโมสรเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของภาคใต้ตอนล่าง
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาศักยภาพของการจัดการแข่งขันกีฬาว่ายน้ำระดับสโมสร ในการพัฒนากลยุทธ์การจัดการแข่งขันกีฬาว่ายน้ำระดับสโมสรที่สามารถส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในภาคใต้ตอนล่าง (สงขลา พัทลุง ตรัง สตูล) และ 2) เพื่อเสนอแนวทางการพัฒนากลยุทธ์การจัดการแข่งขันกีฬาว่ายน้ำระดับสโมสรที่สนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในภาคใต้ตอนล่าง สงขลา พัทลุง ตรัง สตูล) โดยใช้เครื่องมือในการเก็บข้อมูล คือ แบบสัมภาษณ์เกี่ยวกับการศึกษาศักยภาพการจัดการแข่งขันกีฬาว่ายน้ำเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของจังหวัดพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง (สงขลา พัทลุง ตรัง สตูล) เก็บข้อมูลด้วยวิธีจากการสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงร่างจากผู้ให้ข้อมูลหลัก ได้แก่ นักกีฬาว่ายน้ำระดับสโมสรกรรมการ/ผู้ตัดสิน ผู้ชมการแข่งขันกีฬาว่ายน้ำ ผู้ติดตามนักกีฬา ผู้จัดการทีมหรือผู้ควบคุมทีม และบุคลากรในการจัดการแข่งขันกีฬาว่านน้ำระดับสโมสร ในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง คือจังหวัดสงขลา พัทลุง ตรัง และสตูลจำนวน 28 คน ซึ่งได้จากการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) และการวิเคราะห์ข้อมูล ด้วยวิธีการวิเคราะห์เนื้อหา (Content analysis) จัดหมวดหมู่ของข้อมูล นํามาตีความและสร้างความเข้าใจตรงกันในข้อมูลที่ได้มา
ผลการวิจัย พบว่า ศักยภาพการจัดการแข่งขันกีฬาว่ายน้ำของภาคใต้ตอนล่าง พบว่ามีจุดแข็ง 4 ด้าน ดังต่อไปนี้ ด้านการจัดการและดําเนินการแข่งขัน ด้านสถานที่และอุปกรณ์ ด้านบุคลากร และด้านการประชาสัมพันธ์ และพบจุดอ่อนที่ยังต้องพัฒนาและปรับปรุงในด้านงบประมาณและสวัสดิการในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง (สงขลา พัทลุง ตรัง สตูล) พบว่ามีศักยภาพสูงในการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เนื่องจากมีความหลากหลายของทรัยพากรการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมทั้งในด้านวัฒนธรรม ศาสนสถาน แหล่งประวัติศาสตร์โบราณคดี พิพิธภัณฑ์ วิถีชีวิตชุมชน และอาหารท้องถิ่น ที่สามารถดึงดูดการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี แนวทางการยกระดับการจัดการแข่งขันกีฬาว่ายน้ำระดับสโมสรในจังหวัดภาคใต้ตอนล่างเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของภาคใต้ตอนล่างพบว่ามีข้อเสนอแนะสำคัญใน 5 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1) การส่งเสริมและพัฒนาการแข่งขันควบคู่กับการท่องเที่ยว 2) การประชาสัมพันธ์ 3) การสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน 4) การพัฒนาสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวก และ 5) ด้านงบประมาณ ดังนั้น การบูรณาการระหว่างการจัดการแข่งขันกีฬาว่ายน้ำระดับสโมสรและการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในภาคใต้ตอนล่างจะสามารถสร้างความร่วมมือ เพิ่มคุณค่า และสร้างมาตรฐานที่สูงขึ้นให้กับทั้งการแข่งขันกีฬาและการท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างได้อย่างยั่งยืน
Article Details
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
นโยบายการพิจารณากลั่นกรองบทความ
- บทความวิจัยและบทความวิชาการทุกเรื่องที่จะได้รับการตีพิมพ์ต้องผ่านการพิจารณากลั่นกรองโดยผู้ทรงคุณวุฒิ (Peer Review) ในสาขาที่เกี่ยวข้อง จำนวน 3 ท่าน/บทความ
- บทความ ข้อความ ภาพประกอบและตารางประกอบที่ลงตีพิมพ์ในวารสารเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน กองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยเสมอไป และไม่มีส่วนรับผิดชอบใด ๆ ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียว
- บทความที่จะได้รับการตีพิมพ์จะต้องไม่เคยตีพิมพ์ เผยแพร่ที่ใดมาก่อน และไม่อยู่ระหว่างการพิจารณาของวารสารฉบับอื่น หากตรวจสอบพบว่ามีการตีพิมพ์ซ้ำซ้อน ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียว
- บทความใดที่ผู้อ่านเห็นว่าได้มีการลอกเลียนหรือแอบอ้างโดยปราศจากการอ้างอิง หรือทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นผลงานของผู้เขียน กรุณาแจ้งให้กองบรรณาธิการวารสารทราบจะเป็นพระคุณยิ่ง
เอกสารอ้างอิง
Ariratsadon, S., Tasnaina, N., Plungsuwan, S., & Tongkhambanchong, S. (2021). The management guidelines of marine sport promotion for Burapha University students. Journal of Health, Physical Education and Recreation, 47(2).
Boonsoongkiat, W. (2012). Guidelines for developing cultural tourist attractions in Nakhon Si Thammarat Province: Wat Phra Mahathat Woramahawihan, Wat That Noi, and Wat Mokhlan archaeological site. Dhurakij Pundit University, Bangkok.
Chansawang, R. (2017). The development of cruise port models to promote cruise tourism in Thailand's Andaman tourism cluster: Research project: Final research report. Office of the Science Promotion Commission, Research and Innovation.
Delpy Neirotti, L. (2003). Sport and Adventure Tourism. New York: The Howorth Hospitality Press.
Hall, R. (1992). The strategic analysis of intangible resources. Strategic Management Journal, 13(2).
Jantawangso, P. W., Chitwaralangkan, P. A., Kaweephat, P. Y., & Khamhongsa, K. (2024). Journal of Buddhistic Sociology, 9(1).
KannikaWoraphan,& Jinnapat Pathumphon. (2015). Development of sports tourism managementmodel, Ubonrat District, Khon Kaen Province.Faculty of Business Administration and Accounting.Khon Kaen University.
Kerdchang, A., Chamnanjan, P., Mayomhin, C., Churee, K., & Khuhalerd, S. (2024). Guidelines for developing the sport management of the Sukhothai Athletics Championships. The Journal of Pacific Institute of Management Science, 10(1).
Krutwaysho, O., Sangtong, S., & Treesuk, W. (2022). The participatory development of a cultural tourist attraction at Leam Tukkae Sea.
Ministry of Tourismand Sports. (2017). Final report of the business model development project of sport tourism in Thailand for the year 2017. Ministry of Tourismand Sports.
Miesener, K., & Doherty, A. (2009). A case study of organizational capacity in nonprofit community sport. Journal of Sport Management, 23, 457-482.
Nong, S. (2000). Sports competition organization (2nd ed.). Songkhla: Department of Physical Education and Health, Faculty of Education, Thaksin University.
Posted in. (2013). History of swimming: Origins, rules, and benefits. [Online]. Retrieved from www.parwat.com/391.
Pattanaphon, P. (2011). Development of cultural tourism routes along the Phetchaburi River. Thammasat University, Bangkok.
Rattakul, C., Inprom, P., & Kaewchua, S. (2023). Event management evaluation of Asian Under 23 Fencing Championships 2019. Journal of Health, Physical Education and Recreation, 49(2).
Phra Maha Methi, J. (2024). The cultural charm of Southern Thailand. Journal of Buddhist Social Science Review, Mahamakut Buddhist University, Srithammasokaraj Campus, 9(1), January – March 2024.
Rinsan, K., & Intarak, P. (2019). The management of provincial student sports competition. Journal of Educational Administration, Silpakorn University, 10(2), 859-871.
Ruskin, H. (1987). Selected views on socio-economic aspects of outdoor recreation, outdoor education, and sport tourism. In Grammies M. (Ed.), Proceedings of the International Seminar and Workshop on Outdoor Education, Recreation, and Sport Tourism. Netanya, Israel: Emmanuel Gill Publishing.
Santiwong, T. (2002). Management. Bangkok: Chulalongkorn University Press.
Srisa-ard, J., Piyasakulkiat, O. & Khongduangdee, L. (2022). The training management of Thailand national swimmers representing Thailand Swimming Association. Mahachulagajasara Journal, 13(1).
Standevan, J. (1999). Sport tourism: Joint marketing—A starting point for beneficial synergies. Journal of Vacation Marketing, 4, 39–51.
Swimming Association of Thailand. (2020). Strategic plan of the Swimming Association of Thailand. Bangkok: Swimming Association of Thailand.
Suthep Deeyiam, P., & Makklay, P. T. (2023). Capacity building for tourism development of Noen Maprang District, Phitsanulok Province. Journal of MCU Social Science Review, 12(5), 246–261.
