The Development of Learning Model in Physics to Promote High Order Thinking Process for High School Students

Authors

  • Dokkoon Wongwanwattana Program in Educational Research and Evaluation, Faculty of Education, Ubon Ratchathani Rajabhat University
  • Jumlong Vongprasert Program in Applied Statistics, Faculty of Science, Ubon Ratchathani Rajabhat University
  • Udom Tipparach Program in Physical Sciences and Mathematics, Faculty of Science, Ubon Ratchathani University

Keywords:

Physics, High order thinking high, School students

Abstract

The objectives of the research entitled “The Development of Learning Model in Physics to Promote High Order Thinking Process for High School Students” were to study conditions of a learning management model in physics to help enhance a high order thinking process for high school students, to develop a learning model in physics, to try out the learning model in physics, to study the students’ satisfaction towards the use of the learning model in physics. The samples, randomized by stratified random sampling, were 57 teachers teaching science for the 10th grade students and 380 students studying in the 10th  grade  from 16 schools. The data were collected by using questionnaires about opinions on the condition of learning management in physics and analyzed by using  percentage, mean, standard deviation, reliability, difficulty, discriminant Index and test statistics. The research findings were as follows: 1. The findings of the conditions of the learning management in physics for high school students showed that the learning activity management in the level of the implementation was at a moderate level. 2. The developed learning model in physics to enhance the High Order Thinking Process for the high school students consisted of 7 components, namely, 1) principles, 2) objectives, 3) learning and teaching processes, 4) measurement and evaluation, 5) learning atmosphere, 6) teachers’ roles  and 7) students’ roles. 3. The findings of the trial revealed that the mean score of the learning achievement test after learning of the experimental group was higher than that of the control group with statistical significance at the level of .05, and the mean score of the High Order Thinking Process of the experimental group was higher than that of the control group with statistical significance at the level of .05.  4. The overall of the students’ satisfaction towards the use of the learning model in physics to enhance the High Order Thinking Process for the high school students was at a high level.

References

กระทรวงศึกษาธิการ. (2552). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.

กาญจนา จันทร์ประเสริฐ. (2554). การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบนําตนเองโดยใช้ปัญหาเป็นฐานในการสอนวิชาฟิสิกส์วิทยาศาสตร์ชีวภาพ (ดุษฎีนิพนธ์ศึกษาศาสตรดุษฎีบัณฑิต). มหาวิทยาลัยรังสิต, ปทุมธานี.

เขมณัฏฐ์ มิ่งศิริธรรม. (2552). การพัฒนารูปแบบการเรียนบนเว็บเชิงบูรณาการระหว่างการเรียนแบบร่วมมือกับการเรียนร่วมกันเพื่อส่งเสริมการเรียนด้วยการนำตนเองของนักศึกษาระดับปริญญาบัณฑิต คณะศึกษาศาสตร์ (วิทยานิพนธ์ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต). จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กรุงเทพฯ.

จิรนันท์ พึ่งกลั่น. (2555). ผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้ปัญหาเป็นฐานที่มีต่อความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 3 โรงเรียนบ้านค่าย จังหวัดระยอง (วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, กรุงเทพฯ.

ชนาธิป พรกุล. (2554). การสอนกระบวนการคิดทฤษฎีและการนำไปใช้ (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: วี พริ้นท์ (1991).

ทองสุข รวยสูงเนิน. (2552). เอกสารชุดพัฒนาทักษะการคิด โครงการวิจัยและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิดสำหรับนักเรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน เล่ม 2 รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิด (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: สถาบันพัฒนาความก้าวหน้า.

ทิศนา แขมมณี. (2552). รูปแบบการเรียนการสอนทางเลือกที่หลากหลาย. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ธีรวุฒิ เอกะกุล. (2550). ระเบียบวิธีวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์และสังคมศาสตร์. อุบลราชธานี: คณะครุศาสตร์ สถาบันราชภัฏอุบลราชธานี.

นัดดา อังสุโวทัย. (2550). การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนวิชาเคมีที่เน้นกระบวนการเรียนรู้แบบนําตนเองของนักศึกษาระดับปริญญาตรี (วิทยานิพนธ์การศึกษาดุษฎีบัณฑิต). มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, กรุงเทพฯ.

ผ่องพรรณ ตรัยมงคลกูล. (2543). การวิจัยเชิงทดลองทางพฤติกรรมศาสตร์ในการออกแบบวิจัยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. กรุงเทพฯ: ภณิดา ชัยปัญญา.

ลาวัณย์ ทองมนต์. (2550). การพัฒนาหลักสูตรเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยการนำตนเองของนักเรียนในระดับประถมศึกษา (วิทยานิพนธ์การศึกษาดุษฎีบัณฑิต). มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, กรุงเทพฯ.

วิทยา วรพันธุ์, ประสาท เนืองเฉลิม และอมร มะลาศรี. (2559). รูปแบบการเรียนรู้แบบนําตนเองวิชาฟิสิกส์สําหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา, 11(2), 31-46.

วีณา ประชากูล และประสาท เนืองเฉลิม. (2554). รูปแบบการเรียนการสอน (พิมพ์ครั้งที่ 2). มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.

สมสุข ประภา. (2558). การพัฒนา 2I3C Physics Instructional Model โดยใช้วิทยาศาสตร์การโต้แย้งสำหรับโรงเรียนมัธยมปลาย (การค้นคว้าอิสระการศึกษาดุษฎีบัณฑิต). มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, กรุงเทพฯ.

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2553). แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิด ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ระดับมัธยมศึกษา. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ. (2545). แนวทางการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา: เพื่อพร้อมรับการประเมินภายนอก. กรุงเทพฯ: สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน).

Arends, R. I. (1997). Classroom instruction and management. New York: McGraw-Hill.

Carpenter, J. (2011). Self – Direction in the online and face to face classroom: A new look at Grow’s staged self-directed learning model (Dissertation for the Degree Doctor of Education). Northern Illinois University, America.

Hall, J, D. (2011). Self-Directed Learning Characteristics of First-Generation, First-Year College Students Participating in a Summer Bridge Program (Dissertation Doctor of Education). University of South Florida, Florida‎.

Joyce, B., & Weil, M. (1992). Models of teaching. Needham heights: MA Allyn and Bacon.

Rob, T. (2011). How science works : exploring effective pedagogy and practice. New York: Routledge.

Downloads

Published

05-05-2020

How to Cite

Wongwanwattana, D. ., Vongprasert, J. ., & Tipparach, U. . (2020). The Development of Learning Model in Physics to Promote High Order Thinking Process for High School Students. Humanities and Social Sciences Journal of Pibulsongkram Rajabhat University, 14(2), 429–447. Retrieved from https://so01.tci-thaijo.org/index.php/GraduatePSRU/article/view/238791

Issue

Section

Research Article