การพัฒนาหลักสูตรกิจกรรมสร้างจินตภาพและการผ่อนคลายเพื่อการแสดง สำหรับนักเรียนที่เข้าร่วมการแข่งขันนาฏศิลป์
คำสำคัญ:
การพัฒนาหลักสูตร, การจินตภาพและการผ่อนคลายเพื่อการแสดง, นักเรียนที่เข้าร่วมการแข่งขันนาฏศิลป์บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาหลักสูตรกิจกรรมสร้างจินตภาพและการผ่อนคลายเพื่อการแสดง สำหรับนักเรียนที่เข้าร่วมการแข่งขันนาฏศิลป์ ดำเนินการวิจัยโดยใช้กระบวนการวิจัยและพัฒนา มี 3 ขั้นตอน ได้แก่ ตอนที่ 1 การสร้างและตรวจสอบคุณภาพของหลักสูตรกิจกรรมสร้างจินตภาพและการผ่อนคลายเพื่อการแสดง โดยผู้เชี่ยวชาญจำนวน 5 คน ตรวจสอบความเหมาะสมและนำหลักสูตรไปทดลองนำร่องเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ ตอนที่ 2 ทดลองการใช้หลักสูตรกิจกรรมสร้างจินตภาพและการผ่อนคลายเพื่อการแสดง สำหรับนักเรียนที่เข้าร่วมการแข่งขันนาฏศิลป์ โรงเรียนสว่างแดนดิน อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร ที่เข้าร่วมการแข่งขันนาฏศิลป์ในงานประกวดมหกรรมโปงลาง ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 12 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง ใช้เวลาทดลอง 20 ชั่วโมง ตอนที่ 3 การประเมินความพึงพอใจที่มีต่อกิจกรรมของหลักสูตรกิจกรรมสร้างจินตภาพและการผ่อนคลายเพื่อการแสดง สำหรับนักเรียนที่เข้าร่วมการแข่งขันนาฏศิลป์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ในรูปของผลต่างของคะแนน (Difference Score) ผลการวิจัยพบว่า
- หลักสูตรกิจกรรมสร้างจินตภาพและการผ่อนคลายเพื่อการแสดง สำหรับนักเรียนที่เข้าร่วมการแข่งขันนาฏศิลป์ ประกอบด้วย 6 องค์ประกอบ คือ หลักการ จุดมุ่งหมาย เนื้อหา แนวการจัดการเรียนการสอน แนวการวัดและประเมินผล และแนวการใช้สื่อการเรียนการสอน แบ่งเป็น 5 หน่วยการเรียนรู้ ได้แก่ 1) พื้นฐานการแสดงหน้าเวที 2) หลักการแสดงหน้าเวที 3) พื้นฐานการจินตภาพและการผ่อนคลาย 4) ฝึกปฏิบัติตามกระบวนการจินตภาพและการผ่อนคลาย และ 5) ปฏิบัติการแสดงในสถานการณ์จริง การตรวจสอบคุณภาพของหลักสูตรและเอกสารหลักสูตรพบว่า มีความเหมาะสมในระดับมากที่สุด และผลการนำหลักสูตรไปทดลองนำร่องพบว่า หลักสูตรสามารถนำไปใช้ได้จริง
- ผลการทดลองใช้หลักสูตร พบว่า หลังใช้หลักสูตร 1) นักเรียนมีความสามารถในการแสดงนาฏศิลป์ในระดับดีมาก คะแนนเฉลี่ย 95.23 เมื่อเทียบกับเกณฑ์ร้อยละ 80 และ 2) นักเรียนมีความวิตกกังวลในระดับต่ำ คะแนนเฉลี่ย 28.33 คะแนน
- นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการฝึกตามหลักสูตรกิจกรรมสร้างจินตภาพและการผ่อนคลายเพื่อ
การแสดง สำหรับนักเรียนที่เข้าร่วมการแข่งขันนาฏศิลป์ในระดับมากที่สุด (= 4.87, S.D. = 0.13)
เอกสารอ้างอิง
กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ. (2552). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
ใกล้รุ่ง คำภิลานน. (2558). การพัฒนาหลักสูตรเสริมสร้างความฉลาดทางสุขภาวะเกี่ยวกับโรคอ้วน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 (วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต). มหาวิทยาลัยนเรศวร, พิษณุโลก.
ไชยวัฒน์ ผลประดิษฐ์. (2556). การฝึกจินตภาพและการฝึกการพูดกับตนเองที่มีต่อความวิตกกังวลก่อน
การแข่งขันของนักกีฬารักบี้ฟุตบอล (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร, กรุงเทพฯ.
ทองแท้ ศิลาขาว. (2536). ผลของการฝึกผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่มีต่อความวิตกกังวลด้านการเรียนของนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จังหวัดปทุมธานี (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร, กรุงเทพฯ.
นิติไทย นัมคณิสรณ์. (2537). การเปรียบเทียบผลของการฝึกผ่อนคลายกล้ามเนื้อและการใช้สถานการณ์จำลอง
ที่มีต่อความวิตกกังวลก่อนการแสดงของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 วิทยาลัยนาฏศิลปจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร, กรุงเทพฯ.
นาฎสุรีย์ วงศ์อรินทร์. (2558). การพัฒนาหลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติม ฟ้อนคนแพร่นี้ใจงาม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น (การค้นคว้าอิสระปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยนเรศวร, พิษณุโลก.
วิชฏาลัมพก์ เหล่าวานิช. (2556). การประเมินผลศิลปะดนตรีนาฏศิลป์แบบบรูณาการและตามสภาพการณ์จริง ผ่านกิจกรรมวัดประเมินผลการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยฝ่ายมัธยม (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยมหิดล, นครปฐม.
สำลี รักสุทธี. (2544). เทคนิควิธีการเขียนหลักสูตร. กรุงเทพฯ: พัฒนาศึกษา.
Eun, H. J. (2012). The application of imagery to enhance “flow state” in dancers. Australia: School of Sport and Exercise Science, Faculty of Arts, Education and Human Development, Victoria University London.
Tyler, R. W. (1950). Basic Principles of curriculum and Instruction. Chicago: The University of Chicago Press.
Taba, H. (1962). Curriculum Development: throry and Practice. New York: Harcourt Brace and World.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความหรือข้อคิดเห็นใดใดที่ปรากฏในวารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงครามเป็นวรรณกรรมของผู้เขียน ซึ่งบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม


