การจัดการเรียนรู้โดยใช้วิจัยเป็นฐานที่ส่งเสริมสมรรถนะการประเมินและออกแบบกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์และทักษะการทำงานร่วมกันเป็นทีม เรื่อง การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโตของพืชดอก สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
คำสำคัญ:
การจัดการเรียนรู้โดยใช้วิจัยเป็นฐาน, การรู้วิทยาศาสตร์, การสืบเสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์, ทักษะการทำงานร่วมกันเป็นทีมบทคัดย่อ
การวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาแนวทางการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิจัยเป็นฐานที่ส่งเสริมสมรรถนะการประเมินและออกแบบกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ และทักษะการทำงานร่วมกันเป็นทีม เรื่อง การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโตของพืชดอก 2) ศึกษาพัฒนาการด้านสมรรถนะการประเมินและออกแบบกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ และ 3) ศึกษาพัฒนาการด้านทักษะการทำงานร่วมกันเป็นทีม โดยมีกลุ่มเป้าหมายได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 32 คน ซึ่งได้เลือกแบบเฉพาะเจาะจง เครื่องมือวิจัยได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิจัยเป็นฐาน แบบบันทึกสะท้อนผล แบบประเมินสมรรถนะ ใบบันทึกการเรียนรู้และชิ้นงานของนักเรียน และแบบประเมินทักษะการทำงานร่วมกันเป็นทีม การวิเคราะห์ข้อมูลใช้การวิเคราะห์เชิงเนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า การจัดการเรียนรู้ควรประกอบไปด้วย 6 ขั้นตอน ได้แก่ (1) กำหนดหัวข้อวิจัย (2) ออกแบบการวิจัย/วิธีการหาข้อมูล (3) รวบรวมข้อมูล (4) วิเคราะห์ข้อมูล และสรุปผลการวิจัย (5) นำเสนอผลการวิจัย และ (6) ประเมินผล ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้นักเรียนส่วนใหญ่ (ร้อยละ 64.52) มีการพัฒนาสมรรถนะได้ในระดับสูง เนื่องจากการจัดการเรียนรู้นี้ เปิดโอกาสให้นักเรียนได้มีส่วนร่วมในประเมินผลการเรียนรู้ของตนเองและผู้อื่น นอกจากนี้ยังพบว่านักเรียนสามารถพัฒนาทักษะการทำงานร่วมกันเป็นทีม ในด้านการเข้าใจในความแตกต่างระหว่างวัฒนธรรม (4.64) ได้มากที่สุด ทั้งนี้ผู้วิจัยเสนอแนะว่า การจัดการเรียนรู้นั้นควรเน้นให้นักเรียนได้คิดวิเคราะห์ คิดวิพากษ์วิจารณ์ และการให้ข้อเสนอแนะในเชิงสร้างสรรค์
เอกสารอ้างอิง
พิมพ์พัน คุชช่วง และปณิชกา จีรพรชัย. (2560). การศึกษาวิธีการพัฒนาตนเองทางด้านกระบวนการวิจัยเพื่อนำไปสู่การได้รับรางวัลวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศด้านการวิจัยของครูในโรงเรียนแกนนำจัดการเรียนร่วม ภาคเหนือตอนล่าง ปีการศึกษา 2557. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 11(1), 77-91.
ภิญโญ มนูศิลป์. (2558). ปัจจัยที่ส่งผลต่อความมีประสิทธิผลของทีม. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 9(2), 1-28.
วันทณีย์ ณ พัทลุง. (2551). โครงการฝึกอบรมสัมมนาและศึกษาดูงานของบุคลากรศูนย์วิทยพัฒนา มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช นครศรีธรรมราช (รายงานวิจัย). นครศรีธรรมราช: ศูนย์วิทยพัฒนา มสธ. นครศรีธรรมราช.
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2561). ผลการประเมิน PISA 2015 วิทยาศาสตร์ การอ่าน และคณิตศาสตร์ ความเป็นเลิศและความเท่าเทียมทางการศึกษา. กรุงเทพฯ: ซัคเซสพับลิเคชั่น.
สมหวัง พิธิยานุวัฒน์ และทัศนีย์ บุญเติม. (2537). การสอนแบบ Research Based Learning. วิธีวิทยาการวิจัย, 1(6), 1-14.
สิรินภา กิจเกื้อกูล. (2557). การจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ทิศทางสำหรับครูศตวรรษที่ 21. เพชรบูรณ์: จุลดิส การพิมพ์.
สุนีย์ คล้ายนิล, ปรีชาญ เดชศรี และอัมพลิกา ประโมจนีย์. (2551). ความรู้และสมรรถนะทางวิทยาศาสตร์ สำหรับโลกวันพรุ่งนี้: PISA 2006. กรุงเทพฯ: เซเว่นพริ้นติ้งกรุ๊ป.
สุทธิพงษ์ พงษ์วร. (2552). การเรียนการสอนวิทยาศาสตร์จากข่าวในชีวิตประจำวัน. นิตยสารสสวท, 3(161), 17-21.
อัจฉลา วงศ์อมาตย์. (2551). การจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์แบบกระบวนการกลุ่ม เรื่องความน่าจะเป็น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนโนนเจริญพิทยาคม (รายงานการวิจัย). บุรีรัมย์: โรงเรียนโนนเจริญพิทยาคม.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความหรือข้อคิดเห็นใดใดที่ปรากฏในวารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงครามเป็นวรรณกรรมของผู้เขียน ซึ่งบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม


