วาทกรรมวิจารณ์เชิงนิเวศในนิทานพื้นบ้านเขมร
DOI:
https://doi.org/10.14456/psruhss.2021.42คำสำคัญ:
วาทกรรมวิจารณ์เชิงนิเวศ, นิทานพื้นบ้านเขมรบทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาวาทกรรมวิจารณ์เชิงนิเวศในนิทานพื้นบ้านเขมรฉบับแปลภาษาไทย ตีพิมพ์เผยแพร่โดยคณะที่ปรึกษาด้านวัฒนธรรมเขมร พ.ศ. 2540 โดยศึกษาการวิจัยเชิงเอกสาร ผ่านข้อมูลนิทานพื้นบ้านเขมรจำนวน 6 เรื่อง ได้แก่ 1) จระเข้กับคนขับเกวียน 2) สัตว์เลือกกันเป็นราชา 3) ประเพณีการมีอาจารย์ ถือฤกษ์ยาม 4) กำเนิดโลมา 5) ประเพณีการใส่ดอกไม้ธูปเทียนเวลามีคนตาย และ 6) ควายป่ากับควายบ้าน ผลการวิจัยพบว่า วาทกรรมวิจารณ์เชิงนิเวศในนิทานพื้นบ้านเขมร สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำแนกออกเป็น 3 ประเด็น คือ 1) วาทกรรมสิ่งแวดล้อมทางสังคมเป็นความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มมนุษย์ในแต่ละกลุ่มมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน เพราะว่ามนุษย์เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ การสร้างครอบครัว ชุมชนตลอดจนสังคม กฎระเบียบทางสังคมวัฒนธรรม 2) วาทกรรมว่าด้วยสัตว์ เป็นความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และสัตว์ และ 3) วาทกรรมสิ่งแวดล้อมเชิงอุดมการณ์ที่อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ บทความชิ้นนี้ผู้วิจัยใช้กรอบแนวคิดวาทกรรมวิจารณ์เชิงนิเวศและแนวคิดภาษาเชิงนิเวศเป็นกรอบแนวคิดหลักในการวิเคราะห์
เอกสารอ้างอิง
ชูศักดิ์ ภัทรกุลวณิชย์. (2560). โครงสร้างนิยมกับไวยากรณ์ของเรื่องเล่า. ใน ทฤษฎีกับการวิจารณ์ศิลปะ: ทัศนะของนักวิชาการไทย. กรุงเทพ: สายส่งศึกษิต.
ธัญญา สังขพันธานนท์. (2560). ใช่เพียงเดรัจฉาน: สัตว์ศึกษาในมุมมองของการวิจารณ์แนวนิเวศ ทฤษฎีกับการวิจารณ์ศิลปะ: ทัศนะของนักวิชาการไทย. กรุงเทพฯ: สายส่งศึกษิต.
นิทานพื้นบ้านเขมร. (2001). ควายป่าสอนควายบ้าน. กรุงพนมเปญ: คณะที่ปรึกษาวัฒนธรรมเขมร.
นิทานพื้นบ้านเขมร. (2001). ประเพณีการมีอาจารย์ถือฤกษ์ยาม. กรุงพนมเปญ: สถาบันพุทธศาสนบัณฑิต.
นิทานพื้นบ้านเขมร. (2001). ประเพณีการใส่ดอกไม้ธูปเทียน ในมือคนตาย. กรุงพนมเปญ: สถาบันพุทธศาสนบัณฑิต.
นิทานพื้นบ้านเขมร. (2001). สัตว์เลือกกันเป็นราชา. กรุงพนมเปญ: สถาบันพุทธศาสนบัณฑิต.
ประยูร ทรงศิลป์. (2558). นิทานพื้นบ้านเขมร. มหาสารคาม: ภาควิชาภาษาไทยและภาษาตะวันออก คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
สุนทร คำยอด. (2562). อุดมการณ์สิ่งแวดล้อมในเอกสารโบราณล้านนา. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา, 2(3), 57-68.
Alexander, R., & Stibbe, A. (2014). From the Analysis of Ecological discourse to the Ecological Analysis of discourse. Language Sciences, 41, 104-110.
Bang, J. Chr., & Døør, J. (2000). Dialectical Ecolinguistics. Denmark: University of Odense.
Buell, L., Heise, U. K., & Thornber, K. (2011). Literature and Environment. Annual Review of Environment and Resources, 36, 417-440.
Bundsgaard, J., & Steffensen, S. (2000). The dialectics of ecological morphology or the morphology of dialectics. In A. V. Lindo & J. Bundsgaard (Eds.), Dialectical ecolinguistics (pp. 8-36). Odense, Denmark: University of Odense.
Derni, A. (2008). The Ecolinguistic Paradigm: An Integrationist Trend in Language Study. The International Journal of Language Society and Culture, 24, 21-30.
Elza Kioko Nakayama Nenoki do Couto, & Albuquerque, D. (2015). Ecological discourse analysis: theoretical and methodological foundations foundations. Revista de Estudos da Linguagem, Belo Horizonte, 23(2), 485-509.
Fairclough, N. (1992). Discourse and Social Change. Cambridge: Polity Press.
Mokoagouw, M. E. (2018). Environments Triple dimensions in Fairytales: A dialectical ecolinguistics perspective. InternationalJournal of Linguistics, Literatureand Culture, 4(4), 10-16.
Stibbe, A. (2014). An Ecolinguistic Approach to Critical Discourse Studies. Critical Discourse Studies, 11(1), 117-128.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความหรือข้อคิดเห็นใดใดที่ปรากฏในวารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงครามเป็นวรรณกรรมของผู้เขียน ซึ่งบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม


