การเรียนรู้และถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นการทำขนมกงของชุมชน วัดไชโยวรวิหาร จังหวัดอ่างทอง

ผู้แต่ง

  • จุฑามาศ พีรพัชระ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร กรุงเทพฯ 10300
  • พัชรนันท์ ยังวรวิเชียร สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร กรุงเทพฯ 10300
  • อินท์ธีมา หิรัญอัครวงศ์ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร กรุงเทพฯ 10300

DOI:

https://doi.org/10.14456/psruhss.2022.40

คำสำคัญ:

ภูมิปัญญาท้องถิ่น, ขนมกง, หลักสูตรท้องถิ่น

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (1) ความรู้การทำขนมกง (2) พัฒนาหลักสูตรการทำขนมกงท้องถิ่น และ (3) เพื่อถ่ายทอดหลักสูตรภูมิปัญญาท้องถิ่นการทำขนมกงแก่สมาชิกชุมชนวัดไชโยวรวิหาร กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ชุมชนที่เป็นเจ้าของภูมิปัญญาการทำและจำหน่ายขนมกงในตลาดเทศบาลตำบลไชโย และนักเรียนโรงเรียนวัดไชโย เครื่องมือการวิจัยเป็นแบบบันทึกภูมิปัญญาท้องถิ่น แบบบันทึกข้อมูลตำรับอาหาร แบบทดสอบความรู้ก่อนและหลังการอบรม และแบบประเมินความพึงพอใจต่อกระบวนการถ่ายทอดความรู้ โดยใช้วิธีการสัมภาษณ์เชิงลึกเพื่อบันทึกภูมิปัญญาการทำขนมกง สาธิตการทำขนมกงเพื่อถ่ายทำวีดิทัศน์ จัดอบรมเชิงปฏิบัติการแก่นักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 3 ของโรงเรียนวัดไชโย วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้เทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหา สถิติค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที ผลการวิจัยพบว่า ความรู้การทำขนมกงของภูมิปัญญาท้องถิ่นในพื้นที่ตำบลไชโย เป็นภูมิปัญญาที่ได้รับการถ่ายทอดจากบรรพบุรุษ บางส่วนเกิดจากการเรียนรู้ด้วยตนเองในลักษณะครูพักลักจำ ขนมกงที่เป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่เป็นขนมประเภททอด มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 3 ½ - 4 นิ้ว ทำจากถั่วเขียวที่นำมาคั่วให้หอม แช่ค้างคืนเพื่อให้ประกอบได้ง่าย หรืออาจใช้วิธีการต้มโดยไม่ต้องแช่ค้างคืน จากนั้นจึงนำมาบดแล้วกวนกับกะทิ น้ำตาลมะพร้าว มะพร้าวขูดขาว และแป้งข้าวเหนียว นวดผสมให้เนื้อเนียน แบ่งเป็นก้อน คลึงเป็นเส้นยาวแล้วจับปลายสองข้างบรรจบกันเป็นวงกลม ด้านบนใช้ถั่วเขียวกวนคลึงเป็นเส้นแล้ววางไขว้เป็นกากบาท ชุบแป้งชุบทอดที่ทำจากแป้งข้าวเหนียวหรืออาจผสมแป้งข้าวเจ้า ไข่เป็ด กะทิ น้ำตาลทราย และแป้งเชื้อ บางส่วนมีการประยุกต์ใช้สารเคมีช่วยเพื่อให้แป้งฟูเบา ทอดในน้ำมันจนสุกกรอบ ทำให้สะเด็ดน้ำมัน พักให้เย็นแล้วจึงบรรจุ ในส่วนสื่อเผยแพร่ในรูปแบบวีดิทัศน์นั้นประกอบด้วยวิธีการทำขนมกงจากภูมิปัญญาท้องถิ่น 3 ราย หลักสูตรท้องถิ่นการทำขนมกง ประกอบด้วยเนื้อหาหลักสูตรจำนวน 5 เรื่อง โดยใช้เวลาอบรม 14 ชั่วโมง   การถ่ายทอดความรู้แก่นักเรียนโรงเรียนวัดไชโย พบว่า นักเรียนมีความรู้หลังอบรมสูงกว่าความรู้ก่อนอบรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และมีความพึงพอใจต่อกระบวนการถ่ายทอดความรู้ในระดับมากที่สุด

เอกสารอ้างอิง

กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย. (2556). แนวทางการดำเนินงานโครงการบันทึกและเผยแพร่ภูมิปัญญาท้องถิ่น ประจำปี 2556. กรุงเทพฯ: สำนักส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่นและวิสาหกิจชุมชน กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย.

กองพัฒนาการศึกษานอกโรงเรียน กรมการศึกษานอกโรงเรียน. (2543). คู่มือการพัฒนาหลักสูตรท้องถิ่น. กรุงเทพฯ: กรมการศึกษานอกโรงเรียน.

โครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว. (2548). สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน เล่มที่ 19 (พิมพ์ครั้งที่ 7). กรุงเทพฯ: อัมรินทร์พริ้นติ้ง พับลิชชิ่ง.

จุฑามาศ พีรพัชระ, กันต์กนิษฐ์ ขวัญพฤกษ์, วรลักษณ์ ปัญญาธิติพงศ์, และสุวรรณ ประทีป ณ ถลาง. (2558). ตำรับอาหารไทยออนไลน์เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะการเรียนรู้. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร.

ชลลดา ทวีคูณ, และจิราณีย์ พันมูล. (2558). การประยุกต์ใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นในมิติอาหารเพื่อสุขภาพ : กรณีศึกษาชุมชนไทยทรงดำ ตำบลไผ่หูช้าง อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม. พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ.

บุญชม ศรีสะอาด. (2543). วิธีการสถิติสำหรับการวิจัย (พิมพ์ครั้งที่ 6). กรุงเทพฯ: สุรีริยาสาสน์การพิมพ์.

ประเวศ วะสี. (2534). การสร้างสรรค์ภูมิปัญญาไทยเพื่อการพัฒนา. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ.

มาริสา โกเศยะโยธิน. (2546). องค์ความรู้และการถ่ายทอดภูมิปัญญาพื้นบ้านในการทำนาข้าวด้วยวิธีเกษตรธรรมชาติ จังหวัดสุพรรณบุรี. กรุงเทพฯ: สำนักบริหารการศึกษานอกโรงเรียน กระทรวงศึกษาธิการ.

ยุพิน โมราทอง. (วันที่ 16 เมษายน 2558). ประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มสตรีสหกรณ์เกษไชโย. สัมภาษณ์.

วชิร วาสนา, และกัญญา กำศิริพิมาน. (2555). การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ขนมกง ตำบลหนองแก อำเภอเมืองอุทัยธานี. การประชุมเสนอผลงานวิจัยระดับบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ครั้งที่ 2. นนทบุรี: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.

วณิชชา ณรงค์ชัย, ดุษฎี อายุวัฒน์, และอรนัดดา ชิณศรี. (2558). รูปแบบการถ่ายโอนทุนวัฒนธรรมระหว่างรุ่นวัยของครัวเรือนชนบทแห่งหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประเทศไทย. ใน การประชุมวิชาการเสนอผลการวิจัยระดับบัณฑิตศึกษาแห่งชาติ ครั้งที่ 34 (น. 105 - 114). ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น.

วรรณษา แสนลำ, และนัฏฐา มณฑล. (2560). อาหารพื้นเมืองเพื่อสุขภาพที่ดี ชุมชนตำบลตลาด จังหวัดนครราชสีมา. วารสารวิจัยเพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่, 9(6), 445 - 457.

สามารถ จันทร์สูรย์. (2534). ภูมิปัญญาท้องถิ่นคืออะไร อย่างไร. การสัมมนาทางวิชาการ เรื่องภูมิปัญญาชาวบ้าน. กรุงเทพฯ: คุรุสภาลาดพร้าว.

สำนักงานจังหวัดอ่างทอง. (2556). แผนพัฒนาจังหวัดอ่างทอง พ.ศ. 2557-2560. อ่างทอง: สำนักงานจังหวัดอ่างทอง.

โสพิศ ขันทองดี. (2550). การศึกษาอาหารพื้นบ้านจังหวัดสุพรรณบุรี (วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยรามคำแหง.

อรพิน ทองดี, ปราโมทย์ จันทร์เรือง, และวาสนา วราภักต์. (2558). การพัฒนาหลักสูตรท้องถิ่น เรื่อง การทำขนมกง กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุพรรณบุรี เขต 3. ใน การประชุมวิชาการและนำเสนอผลการวิจัย ระดับชาติและนานาชาติ ครั้งที่ 6 กลุ่มระดับชาติ ด้านการศึกษา (น. 558 - 568). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา.

อรอนงค์ ทองมี. (2558). วัฒนธรรมอาหารล้านนา : การพัฒนาเชิงเศรษฐกิจสร้างสรรค์. วารสารศิลปกรรมศาสตร์วิชาการวิจัยและงานสร้างสรรค์, 2(1), 25 - 54.

เอกวิทย์ ณ ถลาง. (2540). ภูมิปัญญาชาวบ้าน 4 ภูมิภาค : วิถีและกระบวนการเรียนรู้ของชาวบ้านไทย. นนทบุรี: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.

Best, J. W. (1970). Research in Education (2nd ed.). Englewood Cliffs, New Jersey: Prentice Hall.

Jati, I. R. (2014). Local wisdom behind Tumpeng as an icon of Indonesian traditional cuisine. Nutrition & Food Science, 44(4), 324 - 334.

Malinowski, B. (1948). Magic, Science and Religion and Other Essays. Beacon Press: Boston, Massachusetts.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

30-09-2022

รูปแบบการอ้างอิง

พีรพัชระ จ. ., ยังวรวิเชียร พ., & หิรัญอัครวงศ์ อ. . (2022). การเรียนรู้และถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นการทำขนมกงของชุมชน วัดไชโยวรวิหาร จังหวัดอ่างทอง. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 16(2), 537–548. https://doi.org/10.14456/psruhss.2022.40

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย