ผลของการจัดการเรียนรู้โดยใช้บริบทเป็นฐาน ที่มีต่อการถ่ายโอนความรู้ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เรื่องแรง มวล และกฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน
DOI:
https://doi.org/10.14456/psruhss.2022.57คำสำคัญ:
การถ่ายโอนความรู้, การจัดการเรียนรู้โดยใช้บริบทเป็นฐาน, ฟิสิกส์บทคัดย่อ
การวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาความสามารถในการถ่ายโอนความรู้ เรื่อง แรง มวล และกฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ด้วยการจัดการเรียนรู้โดยใช้บริบทเป็นฐาน กลุ่มที่ศึกษา คือ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 1 ห้องเรียน (26 คน) เครื่องมือวิจัยคือแบบวัดการถ่ายโอนความรู้เรื่องแรง มวล และกฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน วิเคราะห์คำตอบของนักเรียนโดยการให้คะแนนและจัดกลุ่มเพื่อแบ่งระดับการถ่ายโอนความรู้ออกเป็น 5 ระดับ ได้แก่ การถ่ายโอนแบบไม่เจาะจง การถ่ายโอนตามบริบท การถ่ายโอนแบบใกล้ การถ่ายโอนแบบไกล การถ่ายโอนอย่างสร้างสรรค์ ผลการวิจัยพบว่าหลังเรียนด้วยการจัดการเรียนรู้โดยใช้บริบทเป็นฐาน นักเรียนส่วนใหญ่มีการถ่ายโอนความรู้อยู่ในระดับสูงที่สุด คือ การถ่ายโอนอย่างสร้างสรรค์ (ร้อยละ 53.85) รองลงมาคือการถ่ายโอนความรู้ระดับที่ 4 การถ่ายโอนแบบไกล (ร้อยละ 42.30) และการถ่ายโอนแบบใกล้ (ร้อยละ 3.85) ตามลำดับ ผลการวิจัยสะท้อนให้เห็นว่าการใช้การวิพากษ์มาเป็นเครื่องมือในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ทำให้นักเรียนเกิดการถ่ายโอนความรู้อย่างสร้างสรรค์ได้ และพบว่าการพินิจพิจารณาเลือกใช้คำถามในแต่ละขั้นของการสอนช่วยแนะให้นักเรียนสามารถไต่ระดับที่สูงขึ้นของการถ่ายโอนความรู้ได้ นอกจากนี้การจัดการเรียนรู้โดยใช้บริบทเป็นฐาน ควรเริ่มจากสถานการณ์ที่ใกล้ตัวนักเรียนก่อน แล้วจึงเชื่อมโยงสถานการณ์นั้นเข้าสู่การทดลอง การทำเช่นนี้นักเรียนจะสามารถถ่ายโอนความรู้ได้ดีขึ้น
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2542). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติพุทธศักราช 2542. กรุงเทพฯ: สยามสปอรต์ ซินดิเคท.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2545). คู่มือการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์: เอกสารประกอบหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2544. กรุงเทพฯ: องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์.
กุลธิดา สุวัชระกุลธร. (2557). การพัฒนาแนวคิดและการถ่ายโอนแนวคิดเรื่องแสงของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น (วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ศึกษา). มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. กรุงเทพฯ.
จินดา พราหมณ์ชู, เอกรัตน์ ศรีตัญญู และ ลัดดา มีศุข. (2553). ผลของการใช้กิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้บริบทเป็นฐานที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาเคมีของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5. วารสารศรีนครินทรวิโรฒวิจัยและพัฒนา (สาขามนุษยศาสตร์แบะสังคมศาสตร์), 2(1), 32-41.
ชรินดา สุขแสนชนานันท์. (2555). การพัฒนาแนวคิดและความสามารถในการถ่ายโอนแนวคิดเรื่อง พลังงานความร้อนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น โดยการจัดการเรียนรู้แบบอิงบริบท (วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ศึกษา). มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. กรุงเทพฯ.
ภัทรชา สุขสบาย. (2558). ความสามารถในการนำความรู้เรื่องของไหลไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันและเจตคติต่อการเรียนวิชาฟิสิกส์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยการจัดการเรียนรู้โดยใช้บริบทเป็นฐาน (วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ศึกษา). มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. กรุงเทพฯ.
ยุพาวรรณ คำทา. (2557). การพัฒนาแนวคิดและความสามารถในการนำความรู้เรื่องบรรยากาศไปใช้ในชีวิตประจำวันของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ด้วยการจัดการเรียนรู้โดยใช้บริบทเป็นฐาน (วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ศึกษา). มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. กรุงเทพฯ.
เวียงชัย แสงทอง. (2553). ทรรศนะเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสังคม แนวคิดและการนำความรู้เรื่องสารไปใช้ในชีวิตประจำวัน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยการเรียนรู้ตามแนวคิดวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสังคม (วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ศึกษา). มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. กรุงเทพฯ.
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2556). เกี่ยวกับ PISA (Online). https://pisathailand.ipst.ac.th/about-pisa/, 15 มีนาคม 2563.
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2562). ผลการประเมิน PISA 2018 (Online). https://pisathailand.ipst.ac.th/news-12/, 20 มีนาคม 2563.
สุวิทย์ เมษินทรีย์. (2560). ประเทศไทย 4.0 (Online). http://planning2.mju.ac.th/goverment/20111119104835, 4 กรกฎาคม 2562.
สุรางค์ โค้วตระกูล. (2554). จิตวิทยาการศึกษา. กรุงเทพมหานคร: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2560). แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖o- ๒๕๓๙. กรุงเทพฯ: พริกหวานกราฟฟิค.
Crawford, M. & Witte, M. (1999). Strategies for mathematics: Teaching in context. Educational Leadership, 57, 34-38.
Elliot, S.N., T.R. Kratochwil, J.L. Cook, and J.F. Traves. (2000). Educational Psychology: Effective learning. U.S.A.: McGraw-Hill.
Gagne, R.M. (1970). The Condition of Learning. 2nd ed. New York: Rinehart and Winston.
Gilbert, J. K. (2006). On the nature of context in chemical education. International Journal of Science Education, 28(9), 957-976.
Haskell, R. E. (2001). Transfer of learning: Cognition, instruction and reasoning. UK: Academic Press.
Hunter, M.C. 1995. Teach for Transfer. CA: Corwin Press.
Johnson, A.F. and S. Rutherford. 2010. “Transfer of Knowledge in Science Course for Elementary Education Majors.” Journal of College Science Teaching 3: 80-88.
Kemmis, S. & Mctaggart, R. (1998). The action research planner. Geelong, Victoria: Deakin University Press.
Kim, E. & Park, S.-J. (2002). Students do not overcome conceptual difficulties after solving 1000 traditional problems. American Journal of Physics, 70(7), 765-759.
Mestre, J. P. (2002). Probing adults’ conceptual understanding and transfer of learning via problem posing. Journal of Applied Developmental Psychology, 23(1), 9-50.
Ornek, F., Robinson, W. R., & Haugan, M. P. (2008). What makes physics difficult. International Journal of Environmental & Science Education, 3(1), 30-34.
Parchmann, I., Grasel, C., Baer, A., Nentwig, P., Demuth, R., & Ralle, B. (2006). “Chemie im Kontext”: A symbiotic complementation of a context-based teaching and learning approach. International Journal of Science Education, 28(9), 1041-1062.
Pesman, H. & Ozdemir, O. F. (2012). Approachy method Interaction: The role of teaching method on the effect of context-based approach in physics instruction. International Journal of Science Education, 34(14), 2127-2145.
Roth K. & Garnier, H. (2007). What science teaching looks like: An international perspective. Educational Leadership, 64, 16-23.
Torrance, E. P. (1965). Scientific views of creativity and factors affecting its growth. Daedalus, 94(3), 663-681.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2020 วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความหรือข้อคิดเห็นใดใดที่ปรากฏในวารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงครามเป็นวรรณกรรมของผู้เขียน ซึ่งบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม


