การพัฒนาครูการศึกษาพิเศษด้านการเขียนแผนการสอนเฉพาะบุคคลที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญด้วยกระบวนการระบบพี่เลี้ยง

ผู้แต่ง

  • ศศิพินต์ สุขบุญพันธ์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50180 https://orcid.org/0000-0002-1288-2827

DOI:

https://doi.org/10.14456/psruhss.2023.7

คำสำคัญ:

ครูการศึกษาพิเศษ , แผนการสอนเฉพาะบุคคล , ระบบพี่เลี้ยง

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) ความต้องการของครูการศึกษาพิเศษด้านการเขียนแผนการสอนเฉพาะบุคคลที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ  2) ผลการพัฒนาครูการศึกษาพิเศษด้านการเขียนแผนการสอนเฉพาะบุคคลที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญด้วยกระบวนการระบบพี่เลี้ยง และ3) ความคิดเห็นของครูการศึกษาพิเศษที่มีต่อการเขียนแผนการสอนเฉพาะบุคคลที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญด้วยกระบวนการระบบพี่เลี้ยง ใช้วิธีการวิจัยเชิงปฏิบัติการ(Action Research) กลุ่มตัวอย่างเป็นครูการศึกษาพิเศษ จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 25 คน ได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง ระยะในการศึกษาวิจัย 1 ปีการศึกษา เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย 1. แบบสำรวจความต้องการของครูการศึกษาพิเศษด้านการเขียนแผนการสอนเฉพาะบุคคลที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ 2. กิจกรรมการพัฒนาครูด้านการเขียนแผนการสอนเฉพาะบุคคลที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญโดยใช้กระบวนการระบบพี่เลี้ยง 3. แบบประเมินความสามารถของครูต่อการเขียนแผนการสอนเฉพาะบุคคลที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ และ 4. แบบสัมภาษณ์ความคิดเห็นของครูในการเขียนแผนการสอนเฉพาะบุคคลที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ วิเคราะห์ข้อมูลด้วย ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (gif.latex?\bar{X}) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และ t-test (dependent) และการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า ครูการศึกษาพิเศษมีความต้องการพัฒนาด้านการเขียนแผนการสอนเฉพาะบุคคลที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญในระดับมาก ความสามารถของครูการศึกษาพิเศษด้านการเขียนแผนการสอนเฉพาะบุคคลที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญก่อนการพัฒนา อยู่ในระดับปานกลาง  (gif.latex?\bar{X}= 3.26, S.D.= 0.75) ภายหลังการพัฒนาอยู่ในระดับมาก    (gif.latex?\bar{X} =4.25, S.D.= 0.19) ความสามารถของครูการศึกษาพิเศษด้านการเขียนแผนการสอนเฉพาะบุคคลที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญภายหลังเข้าร่วมวิจัยสูงกว่าก่อนเข้าร่วมวิจัยอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ความคิดเห็นของครูการศึกษาพิเศษ พบว่า ครูเห็นความสำคัญของการเขียนแผนการสอนเฉพาะบุคคลที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ กระบวนการระบบพี่เลี้ยง และประโยชน์ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างหน่วยงาน โดยข้อเสนอแนะว่า ควรให้ผู้ปกครอง นักสหวิชาชีพมีส่วนร่วมและควรพัฒนาครูการศึกษาพิเศษด้วยกระบวนการระบบพี่เลี้ยงอย่างต่อเนื่อง

เอกสารอ้างอิง

กรมสุขภาพจิต. (2557). คู่มือแนวทางการจัดการเรียนการสอนโดยใช้ โครงสร้างซีทสำหรับเด็กที่มีความต้องการพิเศษเรียนร่วมในโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. สืบค้น 20 ธันวาคม 2559, จาก: http://rajanukul.go.th/main/_admin/images/downloadlist/D0000152.pdf

คณะกรรมการกรรมาธิการการศึกษาวุฒิสภา. (2552). แนวทางปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง. กรุงเทพฯ: สำนักเลขาธิการวุฒิสภา.

จิรนันท์ นุ่นชูคัน. (2559). การประเมินความต้องการจำเป็นในการพัฒนาครูผู้สอนด้านการจัดการเรียนรู้โรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร. วารสาร Veridian E-Journal SILPAKORN UNIVERSITY, 9(1), 93-94.

ทักษิณา เครือหงส์. (2550). คู่มือการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ. ลำปาง: คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฎลำปาง.

นวลจิตต์ เชาวกีรติพงศ์. (2560). การเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ในการจัดการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์, วารสาร VERIDIAN E – Journal SILPAKORN UNIVERSITY, 10(1), 111–127.

เบญจา ชลธาร์นนท์. (2548). การสังเคราะห์งานด้านการจัดการเรียนร่วมสู่ภาคปฏิบัติเพื่อนำสู่นโยบายการจัดการศึกษาอย่างมีคุณภาพสำหรับเด็กและเยาวชนพิการ (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ.

พรสุดา ฮวบอินทร์, และปริญญา มีสุข. (2560). ผลการพัฒนาครูตามโครงการพัฒนาครูด้วยการสร้างระบบพี่เลี้ยง Coaching and Mentoring ที่มีผลต่อประสิทธิผลของสถานศึกษาตามการรับรู้ของครู: กรณีศึกษาสถานศึกษามัธยมศึกษา จังหวัดปทุมธานี, วารสาร VERIDIAN E– Journal SILPAKORN UNIVERSITY, 10,(2), 636-646.

ภาควิชาการศึกษาพิเศษ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่. (2560). การศึกษาสำหรับเด็กที่มีความต้องการพิเศษ. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่.

มาเรียม นิลพันธ์, และวรรณภา แสงวัฒนะกุล. (2557). การประเมินโครงการพัฒนาครูโดยใชกระบวนการสรางระบบพี่เลี้ยง Coaching & Mentoring ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุพรรณบุรี เขต 1, วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร, 16(3), 85-94.

วิจารณ์ พานิช. (2553). วิถีสร้างการเรียนรู้เพื่อศิษย์ในศตวรรษที่ ๒๑. กรุงเทพฯ: มูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์.

สมศักดิ์ จี้เพ็ชร์. (2562). การพัฒนาคุณภาพครูโดยการนิเทศแบบสอนแนะและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring) โรงเรียนมหาสวัสดิ์ (ราษฎรบำรุง). วารสารวิชาการบัณฑิตวิทยาลัยสวนดุสิต, 15(2), 165-184.

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2548). การสังเคราะห์งานด้านการจัดการเรียนร่วมสู่ภาคปฏิบัติเพื่อนำสู่นโยบายการจัดการศึกษาอย่างมีคุณภาพสำหรับเด็กและเยาวชนพิการ. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์.

สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2552). รายงานการศึกษาไทยในเวทีโลก พ.ศ. 2549 (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

สุเทพ ธรรมะตระกูล. (2555). การศึกษาคุณลักษณะของครูยุคใหม่. เพชรบูรณ์: คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎเพชบูรณ์.

อมรรัตน์ ด้วงทรัพย์. (2551). การนำเสนอแนวทางการดำเนินงานวิชาการ โรงเรียนเรียนร่วมที่จัดการศึกษาในระดับการศึกษาภาคบังคับ จังหวัดกำแพงเพชร (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). พิษณุโลก: มหาวิทยาลัยราชภัฎพิบูลสงคราม.

อาภรณ์ ใจเที่ยง. (2553). หลักการสอน (พิมพ์ครั้งที่ 5). กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร์.

Allan. (2007). The benefits and impacts of a coaching and mentoring programs for teaching staff in secondary school. Accessed January 21. Available from http://readinglists.warwick.ac.uk

Cordingley, P. & Buckler. N. (2012). Mentoring and Coaching for Teachers’ Continuing Professional Development. In Fletcher. S. & Mullen. C., Mentoring and Coaching in Education. (p. 223-224). London: Sage.

Gottleman , B. (2000). Peer coaching for educators. Lanhan: The Scarecrow.

Guskey, T. R. (2000). Evaluating professional development. Thousand Oaks: Corwin Press.

Simonsen, B., Britton, L., & Young, D. (2010). School-wide positive behavior support in an alternative school setting: A case study. Journal of Positive Behavior Interventions, 12, 180-191.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

12-03-2023

รูปแบบการอ้างอิง

สุขบุญพันธ์ ศ. (2023). การพัฒนาครูการศึกษาพิเศษด้านการเขียนแผนการสอนเฉพาะบุคคลที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญด้วยกระบวนการระบบพี่เลี้ยง . วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 17(1), 85–99. https://doi.org/10.14456/psruhss.2023.7

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย