ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการต่อรองเพื่อเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยของนักศึกษาหญิงในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในภาคเหนือ

จักรกฤษณ์   พิญญาพงษ์; กิตติวรรณ  จันทร์ฤทธิ์; จงรัก  ดวงทอง

doi:10.14456/psruhss.2023.6

ผู้แต่ง

จักรกฤษณ์ พิญญาพงษ์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ 53000
กิตติวรรณ จันทร์ฤทธิ์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ 53000
จงรัก ดวงทอง คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ 53000

DOI:

https://doi.org/10.14456/psruhss.2023.6

คำสำคัญ:

ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ , การต่อรองเพื่อเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย , นักศึกษาหญิงในมหาวิทยาลัย

บทคัดย่อ

การวิจัยแบบภาคตัดขวางครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการต่อรองเพื่อเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยของนักศึกษาหญิงในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในภาคเหนือ กลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษาหญิงจำนวน 825 คน คัดเลือกโดยการสุ่มแบบมีระบบ เครื่องมือวิจัยเป็นแบบสอบถามที่ผู้วิจัยพัฒนาจากการทบทวนวรรณกรรม เก็บรวบข้อมูลแบบออนไลน์จากสมาร์ทโฟน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และหาความสัมพันธ์ของตัวแปรโดยใช้การวิเคราะห์การถดถอยโลจิสติกแบบไบนารี ผลการวิจัยพบว่ากลุ่มตัวอย่างมีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศจากการใช้ถุงยางอนามัยไม่สม่ำเสมอโดย 1 ปีที่ผ่านมากลุ่มตัวอย่างใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์เพียงร้อยละ 27.2 และเคยดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนมีเพศสัมพันธ์ร้อยละ 53.2 กลุ่มตัวอย่างเพียงร้อยละ 28.5 ต่อรองกับคู่นอนทุกครั้งเพื่อมีเพศสัมพันธ์ที่ โดยปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการต่อรองเพื่อเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย ได้แก่การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนมีเพศสัมพันธ์ (AOR=1.9; 95% CI, 1.2-3.2) การไม่ใช้ถุงยางอนามัยครั้งแรกที่มีเพศสัมพันธ์ (AOR=3.7; 95% CI, 2.0-6.9) อายุของคู่นอนที่มากกว่า 22 ปี (AOR = 2.0; 95% CI, 1.1-3.6) ความตั้งใจที่จะใช้ถุงยางอนามัย (AOR=1.7; 95% CI, 1.0-2.8) การรับรู้ความสามารถแห่งตนในการต่อรองเพื่อเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย (AOR=2.3; 95% CI, 1.3-3.2) ความรู้สึกไม่สะดวกใจในการสื่อสารกับคู่นอนเกี่ยวกับการใช้ถุงยางอนามัย (AOR=2.4, 95% CI=1.1-5.3) ดังนั้นการออกแบบกิจกรรมเพื่อให้เยาวชนหญิงมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยควรมุ่งไปที่ตัวแปรที่มีความสัมพันธ์กับการต่อรองเพื่อการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย

เอกสารอ้างอิง

กฤตยา อาชวนิจกุล. (2554). เพศวิถีที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป ในสังคมไทย. วารสารประชากรและสังคม, 15(1), 43-66.

เกศฎาภรณ์ อมรเมธากุล, จิตติมา ขุนบุญ, จิรประภา ตุ่นสิงห์คำ, ฐิติยา เนาวรัตน์, ณัฐวดี เนาวรัตน์, และรัชนก แก้วนิล. (2557). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความตั้งใจและพฤติกรรมการใช้ถุงยางอนามัยของวัยรุ่นหญิงในสถานศึกษา. อุตรดิตถ์: อัดสำเนา.

ชัชวาล เทียนถนอม. (2554). การศึกษารูปแบบความรัก บทบาททางเพศ และพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศของนักศึกษาไทย ระดับปริญญาตรี ในเขตกรุงเทพมหานคร. วารสารศิลปะศาสตร์, 11(2), 118-134.

Abraham, C., Sheeran, P., & Henderson, M. (2011). Extending social cognition models of health behaviour. Health Education Research, 26(4), 624-637.

Adefuye, A. S., Abiona, T. C., Balogun, J. A., & Lukobo-Durrell, M. (2009). HIV sexual risk behaviors and perception of risk among college students: implications for planning interventions. BMC Public Health, 9(3), 281-296.

Coleman, L. M., & Ingham, R. (1999). Exploring young people's difficulties in talking about contraception: how can we encourage more discussion between partners?. Health Education Research, 14(6), 741-750.

Daniel, W. W., & Cross, C. L. (2013). Biostatistics: A Foundation of Analysis in the Health Science. (10th ed). New Jersey: Wiley.

Dessalegen, M., & Wagnew, M. (2012). Predictors of consistent condom use among university students: Hierarchical Analysis Debre Berhan, Ethiopia. Global Journal of Medicine & Public Health, 1(4), 23-28.

Jenkins, R. A., Manopaiboon, C., Samuel, A. P., Jeeyapant, S., Carey, J. W., Kilmarx., P. H, et al. (2002).Condom use among vocational school students in Chiang Rai, Thailand. AIDS Education Prevention, 14(3), 228-245.

Kaestle, C. E., Morisky, D. E., & Wiley, D. J. (2002). Sexual intercourse and the age difference between adolescent females and their romantic partners. Perspectives on Sexual and Reproductive Health, 34(6), 304-309.

Kapadia, F., Latka, M. H., Wu, Y., Strathdee, S. A., Mackesy-Amiti, M. E, Hudson, S. M, et al. (2011). Longitudinal determinants of consistent condom use by partner type among young injection drug users: the role of personal and partner characteristics. AIDS Behavior, 15(7), 1309-1318.

Kelly, C. N., Tatiana, M., Danielle, E., Cinnamon, L. D, William, H. G., & Jeanette, N. (2014). Alcohol intoxication and condom use self-efficacy effects on women's condom use intentions. Addictive Behaviors, 39(1), 153-158.

Noar, S. M., Carlyle, K., & Cole, C. (2006). Why communication is crucial: meta- analysis of the relationship between safer sexual communication and condom use. Journal of Health Communication, 11(4), 365-390.

Pearson, J. (2006). Personal Control, Self-Efficacy in Sexual Negotiation, and contraceptive risk among adolescents: The Role of Gender. Sex Roles, 54(4), 615-625.

Pinyaphong, J., Srithanaviboonchai, K., Chariyalertsak, S., Phornphibul, P., Tangmunkongvorakul, A., & Musumari, P. M. (2018). Inconsistent condom use among male university students in Northern Thailand. Asia Pacific Journal of Public Health, 30(2), 147-157.

Ridge, D., Ziebland, S., Anderson, J., Williams, I., & Elford, J. (2007). Positive prevention: contemporary issues facing HIV positive people negotiating sex in the UK. Social Science & Medicine, 65(4), 755-770.

Roye, C. F. (1998). Condom use by Hispanic and African-American adolescent girls who use hormonal contraception. Journal Adolescent Health, 23(4), 205-211.

Shafi, T., Stovel. K., Davis, R., & Holmes, K. (2004). Is condom use habit forming? condom use at sexual debut and subsequent condom use. Sexually Transmitted Disease, 31(6), 366-372.

Soler, H., Quadagno, D., Sly, D. F., Riehman, K. S., Eberstein, I. W., & Harrison, D. F. (2000). Relationship dynamics, ethnicity and condom use among low-income women. Fam Planning Perspective, 32(2), 82-88.