ผลการใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมส่งเสริมอาชีพด้านคหกรรมศาสตร์สำหรับผู้สูงอายุในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จังหวัดพิษณุโลก

ผู้แต่ง

  • จิราภา สุขประเสริฐ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม จังหวัดพิษณุโลก 65000
  • จิราพัทธ์ แก้วศรีทอง คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม จังหวัดพิษณุโลก 65000 https://orcid.org/0009-0008-3839-7441

DOI:

https://doi.org/10.14456/psruhss.2024.21

คำสำคัญ:

รูปแบบการจัดกิจกรรม , ส่งเสริมอาชีพ , คหกรรมศาสตร์ , ผู้สูงอายุ

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลองแบบศึกษากลุ่มเดียว (One Group Pretest - Posttest Design) มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมส่งเสริมอาชีพด้านคหกรรมศาสตร์สำหรับผู้สูงอายุในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จังหวัดพิษณุโลก กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้สูงอายุที่มีอายุระหว่าง 60–79 ปี ของโรงเรียนผู้สูงอายุพลายชุมพล ตำบลพลายชุมพล อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก จำนวน 80 คน ได้จากการกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างตารางสำเร็จรูปของเครจซี่และมอร์แกน แล้วทำการสุ่มอย่างง่ายด้วยวิธีการจับฉลากและพิจารณาคัดเลือกตามเกณฑ์ที่กำหนด เครื่องมือที่ใช้ คือ รูปแบบการจัดกิจกรรมส่งเสริมอาชีพด้านคหกรรมศาสตร์สำหรับผู้สูงอายุ แบบวัดความรู้ แบบประเมินทักษะอาชีพ และแบบสอบถามความพึงพอใจ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนาและสถิติอนุมาน ผลการทดลองพบว่า ผู้สูงอายุมีคะแนนทดสอบความรู้ก่อนและหลังเข้าร่วมกิจกรรมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ  0.05  มีคะแนนทักษะอาชีพอยู่ในระดับดี  และมีความพึงพอใจโดยรวมต่อการเข้าร่วมกิจกรรมอยู่ในระดับมากที่สุด (gif.latex?\bar{X} = 4.58, S.D.= 0.23)

References

กองสวัสดิการสังคม เทศบาลตำบลพลายชุมพล. (2565). จำนวนนักเรียนโรงเรียนผู้สูงอายุพลายชุมพล. พิษณุโลก: สำนักงานเทศบาลพลายชุมพล.

กุลขนิษฐ์ ราเชนบุญยวัทน์. (2553). คหกรรมศาสตร์: ศาสตร์เพื่อชีวิต. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.

คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์. (2553). แผนผู้สูงอายุแห่งชาติ ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2545-2564) ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 1 พ.ศ. 2552. กรุงเทพฯ: เทพเพ็ญวานิสย์.

ธานินทร์ ศิลป์จารุ. (2551). การวิจัยและวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติด้วย SPSS (พิมพ์ครั้งที่ 9). กรุงเทพฯ: เอส. อาร์.พริ้นติ้ง แมสโปรดักส์.

บุญเชิด ภิญโญอนันตพงษ์. (2547). การวัดประเมินการเรียนรู้. กรุงเทพฯ: คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

พลวัฒน์ รสโสดา, เกษม ประพาน, และสุทิน เลิศสพุง. (2564). ความพึงพอใจของผู้สูงอายุที่มีต่อรูปแบบการจัดกิจกรรมในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุจังหวัดเลย. วารสารศรีล้านช้างปริทรรศน์, 15(1), 121-134.

พวงรัตน์ ทวีรัตน์. (2543). วิธีการวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์และสังคมศาสตร์ (พิมพ์ครั้งที่ 7). กรุงเทพฯ: สำนักทดสอบทางการศึกษาและจิตวิทยา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

ฤดีมาศ พุทธมาตย์. (2562). การสนับสนุนทางสังคมและความผาสุกทางใจของผู้สูงอายุในสถานสงเคราะห์คนชรา (วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต). เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยกลุ่มเป้าหมายพิเศษ. (2565). แนวทางการดำเนินงานและรูปแบบการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตผู้สูงอายุใน 4 มิติ (มิติสุขภาพ มิติสังคม มิติเศรษฐกิจ และมิติสภาพแวดล้อม). กรุงเทพฯ: สำนักงาน กศน. สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ.

สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล. (2563). สารประชากรมหาวิทยาลัยมหิดล ปีที่ 29. สืบค้น 4 กันยายน 2563, จาก http//ipsr.mahidol.ac.th/ipsr/C0ntents/D0ccments/Gazette2020

สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา. (2549). พระราชบัญญัติแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542. สืบค้น 4 กันยายน 2563, จาก http://www.dla.go.th/Organizep

สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2561). ยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2561-2580 (ฉบับประกาศราชกิจจานุเบกษา). กรุงเทพฯ: สำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ.

เอกสิษฐ์ หาแก้ว. (2563). รูปแบบการจัดการโปรแกรมกิจกรรมทางกายเพื่อส่งเสริมสุขภาพนักเรียนในโรงเรียนผู้สูงอายุ (วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต). พิษณุโลก: มหาวิทยาลัยนเรศวร.

Skałacka, K., Derbis, R. (2015). Activities of the elderly and their satisfaction with life. Polish Journal of Applied Psychology, 13(3), 87–102. DOI:10.1515/pjap-2015-0039

ภาพ 1 กรอบแนวคิดในการวิจัย

Downloads

เผยแพร่แล้ว

22-05-2024

How to Cite

สุขประเสริฐ จ., & แก้วศรีทอง จ. . . (2024). ผลการใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมส่งเสริมอาชีพด้านคหกรรมศาสตร์สำหรับผู้สูงอายุในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จังหวัดพิษณุโลก. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 18(1), 309–320. https://doi.org/10.14456/psruhss.2024.21