การขับเคลื่อนหลักธรรมาภิบาลต่อการปฏิบัติราชการ ในยุคการบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ กรณีศึกษา อาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม
คำสำคัญ:
การขับเคลื่อน, หลักธรรมาภิบาล, การปฏิบัติราชการ, การบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาการขับเคลื่อนหลักธรรมาภิบาลต่อการปฏิบัติราชการใน
ยุคการบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ เพื่อศึกษาเปรียบเทียบการขับเคลื่อนหลักธรรมาภิบาลต่อการปฏิบัติราชการในยุคการบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ และเพื่อศึกษาปัญหา อุปสรรค และแนวทางในการขับเคลื่อนหลักธรรมาภิบาลต่อการปฏิบัติราชการในยุคการบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ กรณีศึกษาอาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ อาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม จำนวนทั้งหมด 417 คน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามและนำมาวิเคราะห์หาค่าสถิติ ได้แก่ ค่าเฉลี่ย
ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน t-test และ One Way ANOVA จากการทดสอบเป็นรายคู่ ใช้วิธี LSD ผลการวิจัยพบว่า
- การขับเคลื่อนหลักธรรมาภิบาลต่อการปฏิบัติราชการในยุคการบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ หลักคุณธรรม และรองลงมาตามลำดับ คือ หลักการมีส่วนร่วม หลักนิติธรรม หลักความโปร่งใส หลักสำนึกรับผิดชอบ และหลักความคุ้มค่า ตามลำดับ
- เปรียบเทียบการขับเคลื่อนหลักธรรมาภิบาลต่อการปฏิบัติราชการในยุคการบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ ทั้งหมด 6 ด้าน จำแนกตามสถานภาพส่วนบุคคล พบว่า อายุ ระดับการศึกษา ตำแหน่ง ระยะเวลาในการปฏิบัติงาน และรายได้ ของอาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงครามที่แตกต่างกัน มีความคิดเห็นเกี่ยวกับการขับเคลื่อนหลักธรรมาภิบาลต่อการปฏิบัติราชการในยุคการบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่แตกต่างกัน ส่วน เพศที่แตกต่างกัน มีความคิดเห็นเกี่ยวกับการขับเคลื่อนหลักธรรมาภิบาลต่อการปฏิบัติราชการในยุคการบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ ไม่แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ 05
- ปัญหา อุปสรรค และแนวทางในการขับเคลื่อนหลักธรรมาภิบาลต่อการปฏิบัติราชการในยุคการบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ พบว่า ในยุคปัจจุบันที่เป็นยุคของการบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม ด้านการเมือง ด้านศาสนาวัฒนธรรม สิ่งเหล่านี้จึงนับว่ามีความท้าทายต่อการขับเคลื่อนหลักธรรมาภิบาลต่อการปฏิบัติราชการในยุคการบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นในหน่วยงานภาครัฐ การเอารัดเอาเปรียบ การแก่งแย่งแข่งขันของผู้คนในสังคม การใช้ระบบอุปถัมภ์ ที่ไม่ได้ตระหนักถึงทรัพยากรบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ มีคุณธรรมจริยธรรมที่แท้จริง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ยังนับว่าเป็นกับดักที่สำคัญในการขับเคลื่อนหลัก
ธรรมาภิบาลเป็นอย่างยิ่ง
เอกสารอ้างอิง
คณิน บุญสุวรรณ. (2540). “การเข้าถึงธรรมมาภิบาลตามแนวทางของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540”. สืบค้น 12 กรกฎาคม 2560, จาก https://www.kpi.ac.th
ชัยอนันต์ สมุทวณิช. (2543). การพัฒนาตัวแบบการจัดสรรค์งบประมาณสำหรับการศึกษาขั้นพื้นฐานแบบกระจายอำนาจ. วารสารวิธีวิทยาการวิจัย, 13(3), 83-107.
ณดา จันทร์สม. (2546). ธรรมาภิบาลกับการกระจายอำนาจ. กรุงเทพฯ: คณะพัฒนาการเศรษฐกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์.
เตือนใจ ฤทธิจักร. (2550). ธรรมาภิบาลในการบริหารสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ตามทัศนะของบุคลากร สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม. (วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร, กรุงเทพฯ.
เปรม ติณสูลานนท์. (2548, 11 กรกฎาคม). “จริยธรรมการบริหารภาครัฐ”. มติชน, น. 2.
ปัญญา ฉายะจินดาวงศ์ และรัชนีภู่ ตระกูล. (2549). ธรรมาภิบาล (Good Governaance) กับสังคมไทย. กรุงเทพฯ: บพิธการพิมพ์.
อานันท์ ปันยารชุน. (2542, 11 กรกฎาคม). “มุมมองนายอนันท์”. มติชน, น. 2.
Best, J. W. (1970). Research in Education. Englewood Cliffs, New Jersey : Prentice-Hall Inc,
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความหรือข้อคิดเห็นใดใดที่ปรากฏในวารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงครามเป็นวรรณกรรมของผู้เขียน ซึ่งบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม


