การพัฒนารูปแบบศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ อิเล็กทรอนิกส์ตามแนวคิด OTMM
คำสำคัญ:
ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้อิเล็กทรอนิกส์, การเรียนรู้บนเว็บไซต์ของรูปแบบการสร้างแบบจำลองจากบนลงล่างบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมาย 1. เพื่อศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการพัฒนารูปแบบศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้อิเล็กทรอนิกส์ตามแนวคิด OTMM 2. เพื่อพัฒนารูปแบบศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้อิเล็กทรอนิกส์ตามแนวคิด OTMM 3. เพื่อทดลองและประเมินผลการใช้ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้อิเล็กทรอนิกส์ตามแนวคิด OTMM กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการสำรวจสภาพปัญหาและความต้องการพัฒนาศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้อิเล็กทรอนิกส์ตามแนวคิด OTMM ได้แก่ ตัวแทนครูผู้สอนรายวิชาคอมพิวเตอร์ในสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง จำนวน 265 คน และกลุ่มตัวอย่างในการสัมภาษณ์ ได้แก่ ครูผู้สอนรายวิชาคอมพิวเตอร์ระดับชั้นมัธยมศึกษา จำนวน 16 คน โดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการทดลองรูปแบบศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้อิเล็กทรอนิกส์ตามแนวคิด OTMM แบ่งออกเป็นกลุ่มทดลอง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนชาติตระการวิทยา จำนวน
1 ห้องเรียน จำนวน 40 คน และกลุ่มควบคุม ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียน
นครไทย จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวน 40 คน โดยวิธีเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์ แบบวัดทักษะด้านสารสนเทศ สื่อและเทคโนโลยี และแบบประเมินความพึงพอใจ ผู้วิจัยทำการสัมภาษณ์และเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยตนเอง วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การตีความ สรุปผลการวิจัยในลักษณะการพรรณนา วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่า t-test แบบ Independent
ผลการวิจัยพบว่า 1. สภาพปัญหาของโรงเรียนมัธยมศึกษาส่วนใหญ่คือมีครูผู้สอนรายวิชาคอมพิวเตอร์น้อยเพียง 1-3 คน เนื้อหาสาระที่เรียนมีความไม่ทันสมัย และศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้อิเล็กทรอนิกส์ในปัจจุบันมีความสามารถไม่เพียงพอต่อความต้องการ ครูต้องการให้มีรูปแบบศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้อิเล็กทรอนิกส์ในโรงเรียนของตนเองและครูต้องการสื่อการสอนแบบข้อความที่แก้ไขได้เพื่อสะดวกในการประยุกต์ใช้ 2. รูปแบบศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้อิเล็กทรอนิกส์ตามแนวคิด OTMM ประกอบด้วย 1) โครงสร้าง 2) หลักสูตร 3) รายวิชา 4) เนื้อหา 5) ข่าวประชาสัมพันธ์ 6) ศูนย์ดาวน์โหลด 7) คู่มือการใช้งาน 8) ช่องทางติดต่อ และวงจรการขับเคลื่อนศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้อิเล็กทรอนิกส์ตามแนวคิด OTMM ประกอบด้วย 1) ทรัพยากรการเรียนรู้ 2) การมีส่วนร่วมของครู 3) การมีส่วนร่วมของนักเรียน 4) ผลตอบกลับ 5) เผยแพร่ส่งต่อ 3. ผลการใช้งานรูปแบบศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้อิเล็กทรอนิกส์ตามแนวคิด OTMM พบว่า ทักษะปฏิบัติด้านสารสนเทศ สื่อและเทคโนโลยี ของนักเรียนสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .05 และนักเรียนมีความพึงพอใจต่อรูปแบบศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้อิเล็กทรอนิกส์ตามแนวคิด OTMM โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก
เอกสารอ้างอิง
ชุมพล เสมาขันธ์. (2552). รูปแบบการวิจัยและการพัฒนา. วารสารวิทยาศาสตร์. ปีที่ 10 มกราคม- ธันวาคม 2552, หน้าที่ 97-104.
ศิริกนก สุวรรณธาดา. (2551). ผลการจัดกิจกรรมการเรียนที่เน้นทักษะกระบวนการสาระ
เทคโนโลยีสารสนเทศเรื่องการใช้ซอฟต์แวร์ประมวลคำ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4. การศึกษา มหาบัณฑิต. หลักสูตรและการสอน. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
อาภาภรณ์ อังสาชน และคณะ. (2551). การพัฒนารูปแบบจากห้องสมุดสู่ศูนย์กลางความรู้.
มหาวิทยาลัยสวนดุสิต.
Abdelaziz, Hamdy A. (2005). Instructional Practice and Applications of
Computer Technology and Multimedia : A Model Teaching Business Education. Dissertation Abstracts International. 65(10) : 3668-A ; April.
Blankson, Joseph. (2005). “The use of Technology by Faculty Members at Ohio University”. Dissertation Abstracts International. 65(01) : 68-A ; July.
Li, S., & Liu. D. (2005, Winter2005). The Online Top-Down Modeling Model. Quarterly Review of Distance Education, 6(4), 343-359. Retrieved October 7, 2008. from Academic Search Complete database.
Samruayruen, B. (2010). Improving Instructional Design for Online Learning by
Using the Online Top-Down Modeling Model. In D. Gibson & B. Dodge (Eds.), Proceedings of Society for Information Technology & Teacher Education International Conference 2010 (pp. 838-842).Chesapeake, VA: AACE. Retrieved from http://www.editlib.org/p/33450.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความหรือข้อคิดเห็นใดใดที่ปรากฏในวารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงครามเป็นวรรณกรรมของผู้เขียน ซึ่งบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม


