จริยธรรมการตีพิมพ์
จริยธรรมการตีพิมพ์เผยแพร่บทความสำหรับการดำเนินงานของวารสารมนุษยศาตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ดังนี้
บทบาทหน้าที่ของผู้เขียนบทความ
1. ผู้เขียนต้องเขียนบทความให้มีความสมบูรณ์ถูกต้อง โดยยึดตามรูปแบบของวารสารที่กำหนด
2. ผู้เขียนบทความต้องรับรองว่าผลงานที่ส่งมานั้นเป็นผลงานใหม่ของผู้เขียนบทความ และไม่เคยตีพิมพ์ที่ใดมาก่อน (ไม่ว่าจะภาษาใด ๆ) และไม่อยู่ในระหว่างการส่งไปวารสารอื่นเพื่อพิจารณาตีพิมพ์
3. ผู้เขียนไม่คัดลอกผลงานวิชาการของผู้อื่น และต้องรับรองว่าข้อมูลทั้งหมดของบทความไม่มีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญา
4. ผู้เขียนบทความต้องมีการอ้างอิงทั้งส่วนเนื้อหา และรายการอ้างอิงท้ายบทความเมื่อนำผลงานของผู้อื่นมาอ้างอิงให้ถูกต้อง
5. บทความที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการวิจัยในมนุษย์ ควรผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยในคน (ถ้ามี) โดยผู้เขียนต้องแนบหลักฐานการรับรองจากคณะกรรมการมาพร้อมบทความที่ส่งให้กับกองบรรณาธิการหากมีการร้องเรียนเกี่ยวกับการละเมิดทางจริยธรรมการวิจัยและกองบรรณาธิการได้พิจารณาแล้วเห็นว่ามีการละเมิดจริง ผู้เขียนบทความจะต้องถอนบทความ
6. ผู้เขียนบทความที่มีชื่อปรากฏในบทความทุกคนต้องเป็นผู้ที่มีส่วนร่วมในการทำวิจัยเรื่องนั้นจริง
7. บทความที่ได้รับการตีพิมพ์ใน “วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่” ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
บทบาทหน้าที่ของทีมบรรณาธิการ
1. ที่ปรึกษาวารสารมีหน้าที่พิจารณาให้ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการดำเนินงานด้านวารสารวารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
2. บรรณาธิการวารสารมีหน้าที่เป็นแกนหลักเป็นหัวหน้าทีมกองบรรณาธิการในการพิจารณาและตรวจสอบบทความ พิจารณาความสอดคล้องของเนื้อหาบทความกับเป้าหมายและขอบเขตของวารสาร รวมถึงตรวจสอบประเมินคุณภาพบทความก่อนการตีพิมพ์เผยแพร่ต้องไม่ละเมิดกฎหมายและทรัพย์สินทางปัญญา และปฏิเสธการตีพิมพ์บทความที่เคยเผยแพร่ที่อื่นมาแล้ว โดยไม่ปฏิเสธการตีพิมพ์บทความโดยใช้เหตุผลและความรู้สึกส่วนตัว
3. จัดหากองบรรณาธิการที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขาที่กำหนดตามนโยบายของวารสาร รวมทั้งเปิดเผยชื่อและสังกัดที่ถูกต้องของกองบรรณาธิการในเว็บไซต์ของวารสาร
4. ให้ข้อมูลการติดต่อที่ถูกต้องของวารสาร และข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนการส่งบทความอย่างชัดเจนในเว็บไซต์ของวารสาร
5. ไม่เปิดเผยข้อมูลของผู้เขียนบทความและผู้ประเมินบทความแก่บุคคลอื่น ๆ ในทุกกรณี
6. ตีพิมพ์เผยแพร่บทความที่ผ่านกระบวนการประเมินจากผู้ประเมินบทความแล้วเท่านั้น
7. ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนกับผู้เขียนบทความ ผู้ประเมินบทความและกองบรรณาธิการ
8. ตรวจสอบการคัดลอกผลงานทางวิชาการของผู้อื่นในบทความอย่างเคร่งครัด หากพบการคัดลอกผลงานดังกล่าวจะต้องหยุดกระบวนการประเมินบทความ และติดต่อผู้เขียนบทความหลักเพื่อขอคำชี้แจง
9. ตรวจสอบขั้นตอนการประเมินบทความของวารสารให้เป็นความลับ มีความเป็นธรรม ปราศจากอคติ และตรงตามเวลาที่กำหนด
10. ดำเนินการออกวารสารให้ตรงตามเวลาที่กำหนด
บทบาทหน้าที่ของผู้ประเมินบทความ
1. ผู้ประเมินบทความต้องรักษาความลับและไม่เปิดเผยข้อมูลของบทความแก่บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องในระหว่างการประเมินบทความ
2. ผู้ประเมินบทความต้องไม่แสวงหาประโยชน์และมีส่วนได้ส่วนเสียกับผู้เขียนบทความที่ตนเองได้ทำการประเมิน
3. ต้องตระหนักว่าตนเองเป็นผู้มีความเชี่ยวชาญ มีความรู้ความเข้าใจในเนื้อหาของบทความที่รับประเมินอย่างแท้จริง
4. ประเมินบทความในสาขาวิชาที่มีความเชี่ยวชาญ โดยพิจารณาความสำคัญด้านเนื้อหาบทความบนพื้นฐานความเป็นจริงตามหลักวิชาการ เป็นกลาง ไม่มีอคติ
5. หากมีข้อสงสัยว่าข้อมูลบางส่วนหรือทุกส่วนของบทความมีความเหมือนหรือซ้ำซ้อนกับผลงานอื่น ๆ ผู้ประเมินบทความต้องแจ้งให้บรรณาธิการทราบทันที
6. ผู้ประเมินบทความต้องรักษาระยะเวลาประเมินตามระยะเวลาที่วารสารกำหนด