การศึกษาปัจจัยจูงใจในการจัดทำผลงานเพื่อเสนอขอกำหนดตำแหน่งที่สูงขึ้น และคุณภาพชีวิตในการทำงานของบุคลากรสายสนับสนุน กลุ่มวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ผู้แต่ง

  • อรชญา หมื่นจักร์ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดพิษณุโลก 65000

DOI:

https://doi.org/10.14456/psruhss.2025.14

คำสำคัญ:

ปัจจัยจูงใจ, บุคลากรสายสนับสนุน, ลักษณะส่วนบุคคล, คุณภาพชีวิตในการทำงาน

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยจูงใจในการจัดทำผลงานเพื่อเสนอขอกำหนดตำแหน่งที่สูงขึ้นและคุณภาพชีวิตในการทำงานของบุคลากรสายสนับสนุน กลุ่มวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยนเรศวร กลุ่มตัวอย่าง คือ บุคลากรสายสนับสนุนกลุ่มวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยนเรศวร จำนวน 265 คน ได้มาจากการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้นตามคณะ (Stratified Random Sampling) เครื่องมือในการวิจัย คือ แบบสอบถาม วิเคราะห์โดยใช้ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์อีต้าและค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของสเปียร์แมน ผลการศึกษา พบว่า ปัจจัยจูงใจในการจัดทำผลงานเพื่อเสนอขอกำหนดตำแหน่งที่สูงขึ้นอยู่ในระดับมาก คุณภาพชีวิตในการทำงานของบุคลากรสายสนับสนุนกลุ่มวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยนเรศวรอยู่ในระดับมาก รายได้ต่อเดือนมีความสัมพันธ์อยู่ในระดับต่ำกับปัจจัยจูงใจการจัดทำผลงานเพื่อเสนอขอกำหนดตำแหน่งที่สูงขึ้น ได้แก่ ความสำเร็จในการจัดทำผลงาน นโยบายและการบริหารงาน และความก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงานอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนอายุ ระดับการศึกษา รายได้ต่อเดือนและระยะเวลาการปฏิบัติงานมีความสัมพันธ์อยู่ในระดับต่ำกับคุณภาพชีวิตในการทำงาน ได้แก่ ผลตอบแทนที่ยุติธรรม สภาพการปฏิบัติงานที่ปลอดภัยและส่งเสริมสุขภาพ โอกาสก้าวหน้าและการพัฒนาความสามารถความสมดุลในชีวิตงานและชีวิตส่วนตัว และการได้รับการยอมรับในสังคมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และมีการนำผลการวิจัยไปใช้ในการปรับปรุงแนวทางพัฒนาแรงจูงใจหรือส่งเสริมการเข้าสู่ตำแหน่ง ได้แก่ การจัดอบรม เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับกฎระเบียบ และขั้นตอนการขอตำแหน่ง ซึ่งการอบรมถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้บุคลากรสายสนับสนุนมีความรู้ ความเข้าใจและสามารถพัฒนาตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เอกสารอ้างอิง

กติกา ชาติน้ำเพชร. (2559). ความสัมพันธ์ระหว่างภาพแวดล้อมในการปฏิบัติงานกับผลการปฏิบัติงานของพนักงานมหาวิทยาลัยสังกัดสำนักอธิการบดีมหาวิทยาลัยบูรพา (งานนิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). ชลบุรี: มหาวิทยาลัยบูรพา.

ดรุณี พรมทอง, และชัญญา อภิปาลกูล. (2558). แรงจูงใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรสายสนับสนุน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น.

ธิดารัตน์ สวนเศรษฐ, ระพิน ชูชื่น, และธนวิน ทองแพง. (2562). ปัจจัยที่ส่งผลต่อความผูกพันองค์กรของพนักงานสายสนับสนุนวิชาการในมหาวิทยาลัยบูรพา. e-Journal of Education Studies, Burapha University, 1(6), 55-67. https://so01.tci-thaijo.org/index.php/ejes/article/view/207566

นรีรัตน์ สุเมผา, และปิยธิดา อภิรักษ์สัตยา. (2560). ปัจจัยที่ส่งผลต่อการพัฒนาศักยภาพการทำวิจัยจากงานประจำของบุคลากรสายสนับสนุน คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. วารสารสาระคาม, 8(2), 48-62. https://skjournal.msu.ac.th/Eng/pdfsplitE.php?p=MTU5MTg0NDc1NS5wZGZ8NTctNzE=

ประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยนเรศวร. (2562). พิธีเปิดการประชุมทบทวนนโยบาย (Retreat) และสัมมนาเชิงปฏิบัติการการพัฒนาผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อเข้าสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น ณ โครงการส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ระหว่างวันที่ 9-10 กุมภาพันธ์ 2562. สืบค้น 17 ธันวาคม 2563, จาก https://old.nu.ac.th/?p=13440)

ประเสริฐ อุไร. (2559). แรงจูงใจในการปฏิบัติงานของพนักงาน กรณีศึกษา บริษัท เอจีซี ออโตโมทีฟ (ประเทศไทย) จำกัด (สารนิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเกริก.

พัชร แสงสุวรรณ, สุทธิพร บุญมาก, และเมธี ดิสวัสดิ์. (2563). ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลปัจจัยด้านครอบครัวและปัจจัยด้านที่ทำงานที่มีต่อองค์ประกอบคุณภาพชีวิตบุคลากรมหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย. วารสารวิจัยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย, 12(2), 323-334. https://li01.tci-thaijo.org/index.php/rmutsvrj/article/view/245419/167827

ยุทธศักดิ์ ชูประเสริฐ. (2562). ปัจจัยที่มีผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของพนักงาน: กรณีศึกษา องค์การบริหารส่วนตำบลกู่กาสิงห์อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด. วารสารการวิจัยการบริหารการพัฒนา, 9(3), 52-62. https://so01.tci-thaijo.org/index.php/JDAR/article/view/244014

รวิภา ธรรมโชติ. (2557). การวิเคราะห์นโยบายสาธารณะ. กรุงเทพฯ: คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง.

วัชราภรณ์ ก้อนแก้ว. (2558). ปัจจัยจูงใจที่ส่งผลต่อความต้องการพัฒนาตนเองของบุคลากรสายสนับสนุนวิชาการ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยแม่โจ้.

วัลลภ รัฐฉัตรานนท์. (2562). การหาขนาดตัวอย่างที่เหมาะสมสำหรับการวิจัย: มายาคติในการใช้สูตรของทาโร่ยามาเนและเครทซี-มอร์แกน. วารสารสหวิทยาการวิจัยฉบับบัณฑิตศึกษา, 8(1), 11-28. https://so03.tci-thaijo.org/index.php/JIRGS/article/view/243621

สมนึก ภัททิยธนี. (2565). การวัดผลการศึกษา (พิมพ์ครั้งที่ 13 ฉบับปรับปรุง). กาฬสินธุ์: ประสานการพิมพ์.

สราลี แซงแสวง. (2559). คุณภาพชีวิตในการทำงานและความสมดุลของชีวิตในการทำงานของพนักงานระดับปฏิบัติการเจเนอเรชัน X และเจเนอเรชัน Y (สารนิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

อันธิกา ศักขิณาดี. (2559). ความสัมพันธ์ระหว่างแรงจูงใจในการปฏิบัติงานกับผลการปฏิบัติงานของบุคลากรสายสนับสนุน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก (งานนิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). ชลบุรี: มหาวิทยาลัยบูรพา.

Best, J. W. (1981). Research in Education (4th ed). New Delhi, NJ: Prentice-Hall.

Herzberg, F. (1959). The Motivation to Work. New York: John Wiley & Sons.

Simon Matome Nkgapele. (2025). Employee Motivation and Healthcare Quality in the Post-COVID-19 Pandemic: A South African Public Health Sector Perspective. Retrieved From https://www.researchgate.net/publication/390559090_Employee_Motivationand_Healthcare_Quality_in_the_Post-COVID-19_Pandemic_A_South_AfricanPublic_Health_Sector_Perspective.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

29-06-2025

รูปแบบการอ้างอิง

หมื่นจักร์ อ. . . (2025). การศึกษาปัจจัยจูงใจในการจัดทำผลงานเพื่อเสนอขอกำหนดตำแหน่งที่สูงขึ้น และคุณภาพชีวิตในการทำงานของบุคลากรสายสนับสนุน กลุ่มวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยนเรศวร. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 19(1), 205–219. https://doi.org/10.14456/psruhss.2025.14

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย