นโยบายและแนวปฏิบัติในการใช้ปัญญาประดิษฐ์เตรียมต้นฉบับ

          วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ตระหนักดีถึงศักยภาพของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการเป็นเครื่องมือช่วยอำนวยความสะดวกในการวิจัย อย่างไรก็ดี เพื่อให้การใช้ AI ไม่ขัดกับหลักจริยธรรมการตีพิมพ์ ซึ่งให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบทางวิชาการ ความถูกต้องสมบูรณ์ของข้อมูล ความโปร่งใส ความเคารพในทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่น และการรักษาความลับ กองบรรณาธิการจึงกำหนดนโยบายและแนวปฏิบัติในการใช้ AI เตรียมต้นฉบับสำหรับผู้เกี่ยวข้อง ดังนี้

ผู้เขียน

          1. ผู้เขียนเป็นผู้สร้างสรรค์ผลงานทางปัญญา AI มีฐานะเป็นเพียงเครื่องมือ แนวคิดและข้อเสนอในต้นฉบับต้องมาจากการริเริ่มของผู้เขียน (originality)

         2. ผู้เขียนมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบต่อความถูกต้องสมบูรณ์ของต้นฉบับ ด้วยเหตุนี้ผู้เขียนจึงต้องตรวจสอบข้อมูลทุกอย่างที่นำมาจาก AI ด้วยตนเองเสมอ

          3.  ผู้เขียนต้องรับผิดชอบต่อความผิดพลาด การบิดเบือนข้อมูล การละเมิดลิขสิทธิ์ทรัพย์สินทางปัญญา หรือการละเมิดจริยธรรมการตีพิมพ์ที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ AI ช่วยดำเนินการวิจัย ดังนั้นจึงไม่อนุญาตให้ใส่ชื่อ AI หรือผู้พัฒนา AI ในรายชื่อผู้เขียน เนื่องจาก AI ไม่อาจให้ความยินยอมและรับผิดชอบต่อเนื้อหาในต้นฉบับได้

          4.  ผู้เขียนต้องเปิดเผยการใช้งาน AI เพื่อความโปร่งใส โดยระบุข้อมูลการใช้ในส่วนท้ายของบทความก่อนรายการอ้างอิง ภายใต้หัวข้อ "การเปิดเผยข้อมูลการใช้ปัญญาประดิษฐ์" (Declaration of Generative AI in Scientific Writing) โดยต้องระบุ:

          -  ชื่อเครื่องมือ AI และเวอร์ชันที่ใช้ (เช่น ChatGPT 4.0, Gemini, Microsoft Copilot)

          -  ระบุอย่างชัดเจนว่าใช้ AI ช่วยในส่วนใดของการเตรียมต้นฉบับ

          อย่างไรก็ดี ผู้เขียนไม่จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลการใช้ AI หากเป็นการใช้เฉพาะเพื่อปรับแก้ภาษาในต้นฉบับซึ่งเขียนขึ้นมาด้วยตนเองก่อนแล้ว

          5.  ไม่อนุญาตให้ใช้ AI เขียนต้นฉบับ แต่สามารถใช้ AI ช่วยจัดเรียงข้อมูลในส่วนของการอ้างอิงได้ ภาษาที่ปรากฏในต้นฉบับต้องได้รับการเขียนขึ้นโดยผู้เขียนเองทุกส่วนเพื่อไม่ให้เกิดการคัดลอกผลงานทางวิชาการ เนื้อหาในบทความเป็นเนื้อหาที่ผู้เขียนสร้างขึ้นเอง ไม่ใช่เนื้อหาที่สร้างขึ้นอัตโนมัติโดย AI อย่างไรก็ดี สำหรับต้นฉบับภาษาไทย ผู้เขียนสามารถใช้ AI ช่วยในการปรับเปลี่ยนภาษาในบทคัดย่อภาษาอังกฤษได้

          6.  ไม่อนุญาตให้ใช้ AI ปลอม ดัดแปลง หรือบิดเบือนข้อมูล รูปภาพ หรือการอ้างอิงโดยเด็ดขาด

          7.  อนุญาตให้ใช้ AI ในการปรับแก้ภาษา ช่วยเขียนโค้ด (Coding assistance) วิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ และสร้างแบบจำลอง โดยการใช้งานดังกล่าวต้องไม่ขัดกับนโยบายและแนวปฏิบัติข้ออื่น

          8.  ผู้เขียนมีหน้าที่ต้องทำความเข้าใจนโยบายและแนวปฏิบัติในการใช้ปัญญาประดิษฐ์เตรียมต้นฉบับของวารสาร การยืนยันส่ง
ต้นฉบับถือเป็นการแสดงการยอมรับนโยบายและแนวปฏิบัติตามที่ประกาศไว้ การละเมิดนโยบายและแนวปฏิบัตินี้สามารถนำไปสู่
การปฏิเสธการตีพิมพ์หรือถอดถอนบทความได้

ผู้ประเมินบทความ

          1.  ผู้ประเมินบทความมีหน้าที่ต้องทำการประเมินต้นฉบับด้วยตนเอง ไม่ควรใช้ AI ช่วยประเมินบทความ

          2.  ผู้ประเมินบทความไม่ควรอัปโหลดบทความต้นฉบับ ส่วนใดส่วนหนึ่งของต้นฉบับ หรือผลการประเมินลงในระบบ AI ซึ่งอาจนำไปสู่การละเมิดลิขสิทธิ์ทรัพย์สินทางปัญญาหรือละเมิดหลักการรักษาความลับ

         3.  หากมีข้อสงสัยว่าต้นฉบับที่ตนรับผิดชอบประเมินมีการใช้ AI ที่ขัดกับนโยบายและแนวปฏิบัติในการใช้ปัญญาประดิษฐ์ของวารสาร ผู้ประเมินบทความต้องแจ้งให้บรรณาธิการทราบทันที

บรรณาธิการ

          1.  บรรณาธิการมีหน้าที่ต้องพิจารณาและประเมินบทความต้นฉบับเบื้องต้นด้วยตนเอง ไม่ควรใช้ AI ช่วยในการพิจารณาบทความ

          2.  บรรณาธิการไม่ควรอัปโหลดบทความต้นฉบับหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของต้นฉบับลงในระบบ AI ซึ่งอาจนำไปสู่การละเมิดลิขสิทธิ์ทรัพย์สินทางปัญญาหรือละเมิดหลักการรักษาความลับ

          3.  การตัดสินของบรรณาธิการในกรณีที่เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับการละเมิดนโยบายและแนวปฏิบัติในการใช้ปัญญาประดิษฐ์ถือเป็นที่สิ้นสุด

การดำเนินการของกองบรรณาธิการ

          กองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการเลือกใช้เครื่องมือตรวจหาการใช้ AI การใช้ AI ที่ไม่เหมาะสมหรือขัดกับนโยบายและแนวปฏิบัติในการใช้ปัญญาประดิษฐ์ตามที่ประกาศไว้ถือเป็นการละเมิดจริยธรรมการตีพิมพ์ กองบรรณาธิการมีสิทธิในการปฏิเสธการตีพิมพ์หรือถอดถอนบทความได้  

          นโยบายนี้มีผลบังคับใช้กับต้นฉบับที่ส่งเข้ามาเพื่อพิจารณาตีพิมพ์ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2568 เป็นต้นไป