ผลของโปรแกรมการฝึกบริหารกายวันละ 10 นาที ต่อสมรรถภาพทางกาย เพื่อสุขภาพสำหรับคนทำงานที่มีภาวะน้ำหนักเกินในสำนักงาน
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างโปรแกรมการฝึกบริหารกายวันละ 10 นาที และศึกษาผลของโปรแกรมที่มีต่อสมรรถภาพทางกายเพื่อสุขภาพของคนทำงานในสำนักงานที่มีภาวะน้ำหนักเกิน การวิจัยนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง กลุ่มตัวอย่างที่เป็นบุคคลทั่วไปที่ทำงานในสำนักงานและมีภาวะน้ำหนักเกิน จำนวน 20 คน ช่วงอายุระหว่าง 20-30 ปี และมีค่าดัชนีมวลกาย (BMI) เกิน 24 ผลการวิจัยพบว่าลักษณะและรูปแบบของคลิปวิดีโอที่จำเป็นต่อการฝึกบริหารกายวันละ 10 นาที มีดังต่อไปนี้ 1) ผู้มีภาวะน้ำหนักเกินสามารถฝึกบริหารกายได้ด้วยตนเองผ่านการชมคลิปวีดิโอ และฝึกบริหารกายตามได้ตามที่ตนเองมีเวลา 2) ผู้มีภาวะน้ำหนักเกินสามารถปฏิบัติตามได้อย่างคล่องตัวและมีท่าบริหารกายที่ไม่ยากมากเกินไป 3) ท่าทางในการบริหารกายของผู้มีภาวะน้ำหนักเกินจะต้องไม่เกิดแรงกระแทกที่หัวเข่าและข้อเท้ามากเกินไป 4) ผู้มีภาวะน้ำหนักเหมาะกับการบริหารกายกับเก้าอี้ ผลสมรรถภาพทางกายก่อนและหลังการเข้าโปรแกรมการฝึกบริหารกายวันละ 10 นาที พบว่า ด้านสัดส่วนองค์ประกอบของร่างกาย ด้านความแข็งแรงและอดทนของระบบกล้ามเนื้อเฉพาะการทดสอบการยืน-นั่งบนเก้าอี้ 60 วินาที และด้านความอดทนระบบหายใจและระบบไหลเวียนโลหิต มีค่าเพิ่มขึ้นหรือดีขึ้นเมื่อเปรียบเทียบก่อนและหลังการฝึกแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.001
Article Details
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1.บทความที่ตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการศิลปศาสตร์ประยุกต์ การนำเนื้อหา ข้อความหรือข้อคิดเห็น รูปภาพ ตาราง ของบทความไปจัดพิมพ์เผยแพร่ในรูปแบบ ต่าง ๆ เพื่อใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ ต้องได้รับอนุญาตจากกองบรรณาธิการวารสารอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร
2.ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่อง เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับวารสารวิชาการศิลปศาสตร์ประยุกต์ และบุคลากร คณาจารย์ท่านอื่น ๆ ในวารสารฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
References
กิจจา ถนอมสิงหะ. (2554). ผลของการออกกำลังกายเป็นกลุ่มด้วยการเดินวิ่งที่มีผลต่อสุขสมรรถนะในเยาวชนหญิงที่มีภาวะน้ำหนักเกิน (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กรุงเทพมหานคร.
กรมพลศึกษา. (2562). แบบทดสอบและเกณฑ์มาตรฐานสมรรถภาพทางกายของประชาชน อายุ 19-59 ปี. กรุงเทพมหานคร: กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา.
กรมอนามัย. (2553). ขยับกายสบายชีวี. กรุงเทพมหานคร : กระทรวงสาธารณสุข.
ปิยะภัทร มานะสถิตพงศ์. (2557). การพัฒนาโปรแกรมเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคอาหารและการออกกำลังกายโดยใช้ทฤษฎีขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมสำหรับนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นที่มีภาวะน้ำหนักเกิน (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยม กรุงเทพมหานคร.
เติมเพชร สุขคณาภิบาล. (2561). การเสริมประสบการณ์การเรียนโดยใช้คลิปวิดีโอในการสอนเทเบิลเทนนิสเพื่อให้ผลลัพธ์ทางการเรียนของนักศึกษาปริญญาบัณฑิต (รายงานการวิจัย). กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ.
นันท์นภัส ธนฐากร และธนัช กนกเทศ.(2562). โรคอ้วนในผู้สูงอายุ : การประเมินและแนวทางป้องกัน. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย ฉบับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, 13(1), 16-26.
นภัสกร ชื่นศิริ. (2557). การเปรียบเทียบผลของการฝึกออกกำลังกายแบบสลับช่วงที่ความหนักสูงและมีความหนักสูงมากต่อการใช้พลังงานองค์ประกอบของร่างกาย และการทำงานของหลอดเลือดในเด็กอ้วน. (วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต). จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กรุงเทพมหานคร.
วารินทร์ มากสวัสดิ์. (2558). ความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ความสามารถแห่งตนกับการมีกิจกรรมทางกายของวัยรุ่นตอนต้นที่ภาวะน้ำหนักเกินในกรุงเทพมหานคร (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กรุงเทพมหานคร.
วรศักดิ์ เพียรชอบ. (2561). การวัดและประเมินผลทางการพลศึกษา. รวมบทความเกี่ยวกับ ปรัชญา หลักการวิธีการสอนและการวัดประเมินผลทางพลศึกษา (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สมโภชน์ เอี่ยมสุภาษิต. (2556). ทฤษฎีและเทคนิคการปรับพฤติกรรม (พิมพ์ครั้งที่ 8). กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สนธยา สีละมาด. (2557). กิจกรรมทางกายเพื่อสุขภาวะ. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
อดิเทพ มโนนะที. (2558). ผลของการจัดกิจกรรมพลศึกษาโดยใช้โปรแกรมการออกกำลังกายแบบใช้น้ำหนักตัวเป็นแรงต้านเพื่อลดน้ำหนักและเปอร์เซ็นต์ไขมันของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นที่มีภาวะน้ำหนักเกิน (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กรุงเทพมหานคร.
American College of Sports Medicine. (2017). ACSM’s Guidelines Testing and Prescription (10th Ed.). Philadelphia: Lippincott Williams & Wilkins.
Kamen, G. (2001). Foundations of Exercise Science. Philadelphia : Lippincott Williams & Wilkins.
McArdle W. D., Katch, F. I. & Katch, V. L. (2015). Essentials of exercise physiology (5th Ed.). Philadelphia: Lippincott Williams & Wilkins.
World Health Organization. (2014). Obesity and overweight. Retrieved from http://www.who.int/mediacentre/ factsheets/fs311/en/#