Effects of Self-Help Skills Training Program of Children with Cerebral Palsy for Parents to Increase the Quality of Life of Children with Cerebral Palsy
Main Article Content
Abstract
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยปฏิบัติการ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการใช้โปรแกรมการฝึกทักษะการช่วยเหลือตนเองในเด็กสมองพิการสำหรับผู้ปกครองเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตเด็กสมองพิการ โดยมีวัตถุประสงค์ย่อยดังนี้ 1) เพื่อศึกษาความรู้และทักษะการช่วยเหลือตนเองสำหรับเด็กสมองพิการของผู้ปกครอง 2) เพื่อศึกษาทักษะการช่วยเหลือตนเองของเด็กสมองพิการด้านกิจวัตรประจำวันและการรับประทานอาหาร 3) เพื่อศึกษาคุณภาพชีวิตของเด็กสมองพิการตามการรับรู้ของผู้ปกครอง กรณีศึกษาเป็นครอบครัวของเด็กสมองพิการ จำนวน 1 ครอบครัว ที่รับเข้ารับบริการด้านการศึกษาในศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดพังงา เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ 1) โปรแกรมการฝึกทักษะการช่วยเหลือตนเองในเด็กสมองพิการสำหรับผู้ปกครองด้านกิจวัตรประจำวันและการรับประทานอาหาร รวมจำนวน 11 เรื่อง แต่ละเรื่องมี แผนการจัดกิจกรรม วีดิทัศน์สาธิต และบัตรภาพกิจกรรมขั้นตอนการฝึก 2) แบบประเมินความรู้และทักษะของผู้ปกครองในการฝึกทักษะการช่วยเหลือตนเองสำหรับเด็กสมองพิการ แบบประเมินทักษะการช่วยเหลือตนเองของเด็กสมองพิการ และแบบสอบถามคุณภาพชีวิตด้านสุขภาพเฉพาะโรคสำหรับเด็กสมองพิการ ฉบับผู้ปกครองประเมินแทนเด็ก ซึ่งประเมินเฉพาะด้านกิจวัตรประจำวันและด้านการรับประทานอาหาร ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลใช้ระยะเวลา 9 สัปดาห์ แบ่งออกเป็น 3 ช่วงคือ ช่วงที่ 1 สร้างโปรแกรมการฝึกทักษะการช่วยเหลือตนเองในเด็กสมองพิการสำหรับผู้ปกครองร่วมกับผู้ปกครอง ช่วงที่ 2 ฝึกและให้ความรู้ผู้ปกครองในการใช้โปรแกรมการฝึกทักษะการช่วยเหลือตนเองในเด็กสมองพิการ และช่วงที่ 3 ผู้ปกครองนำโปรแกรมการฝึกทักษะการช่วยเหลือตนเองในเด็กสมองพิการไปใช้ฝึกเด็กสมองพิการที่บ้าน วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณด้วยการแจกแจงคะแนน โดยการนำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลในรูปแผนภูมิประกอบการบรรยายผลการวิจัย พบว่า 1) ความรู้และทักษะการช่วยเหลือตนเองสำหรับเด็กสมองพิการของผู้ปกครองเพิ่มขึ้นสามารถฝึกทักษะการช่วยเหลือตนเองของเด็กสมองพิการได้ 2) ทักษะการช่วยเหลือตนเองของเด็กสมองพิการด้านกิจวัตรประจำวันและด้านการรับประทานอาหารเพิ่มขึ้นสามารถปฏิบัติทักษะการช่วยเหลือตนเองได้ด้วยตนเอง 3) คุณภาพชีวิตของเด็กสมองพิการทั้งด้านกิจวัตรประจำวันและด้านการรับประทานอาหารเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับที่เด็กสมองพิการสามารถทำกิจกรรมได้โดยไม่มีความยากลำบาก
Article Details

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1.The articles published in the Journal of Faculty of Applied Arts are the copyright of the journal. The use of the contents, texts, opinions, pictures, tables or any parts of the articles to be published in any format for the commercial use must be officially allowed in a written form by the authorized person of the editorial team.
2.The opinion exists in each article is the author’s responsibility. The editorial team of the Journal of Faculty of Applied Arts (FAA lecturers, staff, and any personnel) will not take any responsibility on that. The author of each article is the only person who will take full responsibility for his or her own article.
References
ฑมลา บุญกาญจน์ และคณะ. (2551). การสร้างเครื่องมือเพื่อพัฒนาทักษะการช่วยเหลือตนเอง สำหรับเด็กสมองพิการภายใต้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยผู้ปกครองมีส่วนร่วม. วารสารวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏสวน สุนันทา, 17(1), 119-133.
ณัฐธิดา ปัญญาธนคุณ และคณะ. (2563). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลเด็กสมองพิการของญาติผู้ดูแลในกรุงเทพมหานคร. วารสารการปฏิบัติการพยาบาลและการผดุงครรภ์ไทย, 6(1), 5-18.
ณรรทอร พลชัย และมัลลวีร์ อดุลวัฒนศิริ. (2557). ผลการให้คำปรึกษารายบุคคลที่มีต่อความวิตกกังวลในผู้ดูแลเด็กสมองพิการ. วารสารศึกษาศาสตร์ ฉบับวิจัยบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 8(2), 34-43.
ดวงใจ สนิท และคณะ. (2558). ผลของโปรแกรมการพยาบาลระบบสนับสนุนและให้ความรู้ต่อพฤติกรรมการดูแลของผู้ดูแลเด็กสมองพิการ. วารสารเกื้อการุณย์, 22(1), 60-81.
น้อมจิต นวลเนตร์. (2552). หลักการทางกายภาพบำบัดสำหรับผู้ป่วยทางระบบประสาท. ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องกำหนดประเภทและหลักเกณฑ์ของคนพิการทางการศึกษา พ.ศ. 2552. (2552, 8 มิถุนายน). ราชกิจจานุเษกษา. เล่มที่ 126 ตอนพิเศษ 80 ง. หน้า 45-47.
ประภาศรี นันท์นฤมิต. (2564). การช่วยเหลือระยะแรกเริ่มสำหรับเด็กที่มีความต้องการพิเศษ. วารสารการจัดการศึกษาปฐมวัย, 3(1), 51-69.
พินัยลัก ตันติลีปิกร เอิร์. (2561). แบบสอบถามเฉพาะโรคสำหรับเด็กสมองพิการ. ใน ภาสกร ศรีทิพย์สุโข และคณะ. (บรรณาธิการ). การวัดคุณภาพชีวิตด้านสุขภาพในเด็ก (หน้า 71-80). ปทุมธานี : มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
ไพรัช ประสงค์จีน. (2553). โรคเด็กสมองพิการ. (พิมพ์ครั้งที่ 1). กรุงเทพมหานคร: แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ภาสกร ศรีทิพย์สุโข. (2555). รายงานการวิจัยผลของการฟื้นฟูทักษะการเคลื่อนไหวจากการเลียนแบบท่าทางในเด็กสมองพิการ. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
มูลนิธิช่วยคนปัญญาอ่อนแห่งประเทศไทย. (2558). คู่มือการฝึกทักษะการดำรงชีวิตประจำวันของคนพิการทางสติปัญญา. กรุงเทพมหานคร: กองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ.
สุภาพร วรรณสันทัด และสิงห์ กาญจนอารี. (2562). โปรแกรมพัฒนาผู้ดูแลเด็กสมองพิการ: การทบทวนวรรณกรรม. วารสารวิจัยสุขภาพและการพยาบาล, 35(3), 235-249.
สุไม บิลไบ. (2557). การออกแบบและพัฒนาบทเรียนมัลติมีเดียโดยใช้ ADDIE Model. (เอกสารประกอบการสอนนวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา). สืบค้นจาก https://so01.tcithaijo.org/index.php/faakmutnb/article/view/255638/169984