ความสุขของประชาชนจากการดำเนินงานในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ของเมืองพัทยา
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินความสุขและความพึงพอใจของประชาชนจากการดำเนินกิจกรรมและโครงการงบเงินอุดหนุนประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ของเมืองพัทยา โดยใช้วิธีการวิจัยแบบผสานวิธี (Mixed Methods) ในส่วนของการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative research) ใช้เครื่องมือแนวคำถามสำหรับการสัมภาษณ์แบบเจาะลึก (In-depth interview) จากผู้ให้ข้อมูลสำคัญ (Key informants) ในกลุ่มคณะกรรมการชุมชนจากทั้ง 42 ชุมชน ส่วนการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative research) ใช้เครื่องมือแบบสอบถามในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างประชาชนผู้รับประโยชน์จากการดำเนินกิจกรรมและโครงการงบเงินอุดหนุนประจำปีของเมืองพัทยา จากทั้ง 42 ชุมชน จำนวนรวมทั้งสิ้น 840 คน การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อประเมินความสุขของประชาชน ใช้ค่าเฉลี่ยและการวิเคราะห์เนื้อหา (Content analysis) ของเหตุผลประกอบการประเมินในการวิเคราะห์ ส่วนการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อประเมินความพึงพอใจของประชาชน ใช้ค่าเฉลี่ยในการวิเคราะห์ข้อมูล ผลการศึกษาพบว่า ความสุข ของประชาชนในด้านสุขภาพใจ ด้านสุขภาพ ด้านการศึกษา ด้านความหลากหลายทางวัฒนธรรมและความสามารถในการรับมือการเปลี่ยนแปลง ด้านการใช้เวลา ด้านธรรมมาภิบาล ด้านสุขภาพชุมชน ด้านความหลากหลายทางนิเวศและความสามารถในการรับมือการเปลี่ยนแปลง และด้านมาตรฐานการดำรงชีวิต ทุกด้านมีค่าเฉลี่ยคะแนนความสุขในระดับค่อนข้างมาก และมีการเปลี่ยนแปลงลดลงจากช่วงปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 เนื่องจากสาเหตุของผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 ส่วนผลการประเมินความพึงพอใจของประชาชนจากทั้ง 42 ชุมชนในเขตเมืองพัทยาต่อการดำเนินกิจกรรมและโครงการภายใต้งบเงินอุดหนุนประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ของเมืองพัทยา พบว่า ภาพรวมค่าเฉลี่ยความพึงพอใจของประชาชนผู้รับประโยชน์จากการดำเนินกิจกรรมและโครงการของเมืองพัทยา อยู่ในระดับพึงพอใจมาก ( = 2.66) โดยมีค่าลดลงเล็กน้อย (-0.03) จากช่วงปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ( = 2.69) โดยเมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่าค่าเฉลี่ยความพึงพอใจที่เพิ่มขึ้นจากช่วงปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ประกอบด้วย (1) การช่วยให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ได้ตามมาตรฐาน (2) การช่วยลดปัญหาและผลกระทบทางเศรษฐกิจในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ลงไปได้ (3) การช่วยรักษาความสมดุลของสภาพแวดล้อม (4) การช่วยทำให้ครอบครัวประชาชนเกิดความเข้มแข็ง ส่วนค่าเฉลี่ยความพึงพอใจที่ลดลงจากช่วงปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ประกอบด้วย (1) การช่วยให้บุตรหลานของประชาชนได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ (2) การช่วยทำให้ประชาชนมีสุขภาพแข็งแรง (3) การช่วยทำให้ประชาชนทุกครอบครัวมีการใช้เวลาในการดำรงชีวิตได้อย่างเหมาะสม (4) การช่วยทำให้ประชาชนมีสภาวะทางจิตใจที่ดี (5) การดำเนินงานอย่างมีธรรมาภิบาล และ (6) การช่วยส่งเสริมและรักษาวัฒนธรรมของชาติ
Article Details
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1.บทความที่ตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการศิลปศาสตร์ประยุกต์ การนำเนื้อหา ข้อความหรือข้อคิดเห็น รูปภาพ ตาราง ของบทความไปจัดพิมพ์เผยแพร่ในรูปแบบ ต่าง ๆ เพื่อใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ ต้องได้รับอนุญาตจากกองบรรณาธิการวารสารอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร
2.ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่อง เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับวารสารวิชาการศิลปศาสตร์ประยุกต์ และบุคลากร คณาจารย์ท่านอื่น ๆ ในวารสารฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
References
กิจฐเชต ไกรวาส, จุฬาลักษณ์ พันธัง, ธาริกานต์ ธนัญชยะกุล, กฤติยา อนุวงศ์, ชวโรจน์ แย้มกลิ่น, อารญา สุขหอม,
จรัสพล ชยะสิทธิ์ และอาภาภรณ์ สุขหอม. (2563). โครงการประเมินผลการดำเนินงานงบเงินอุดหนุนประจำปี.
รายงานฉบับสมบูรณ์. สำนักยุทธศาสตร์และงบประมาณ เมืองพัทยา.
กิจฐเชต ไกรวาส. (2564). การวิเคราะห์ข้อมูลทางรัฐประศาสนศาสตร์ (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพฯ: ซัคเซส.
ธนกฤต ทุริสุทธิ์ และชาตรี นาคะกุล. (2556). ดัชนีชี้วัดความสุขมวลรวมชุมชนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง.
วารสารสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์. 39(1), 209-220.
บัวสวรรค์ จันทร์พันดาว และปรุตม์ บุญศรีตัน. (2563). ธรรมนูญความสุขชุมชน : สู่การพัฒนาดัชนีความสุข
มวลรวมเชิงพุทธของชุมชนต้นแบบ. วารสารพุทธศิลปกรรม. 3(2), 1-11.
ฝ่ายทะเบียนและบัตรประชาชน สำนักปลัดเมืองพัทยา. (2564). สถิติจำนวนประชากรตามทะเบียนราษฎร
ในเขตเมืองพัทยา. ชลบุรี: เมืองพัทยา
พระมหาสุทิตย์ อาภากโร (อบอุ่น) และคณะ. (2558). การสร้างและพัฒนาตัวชี้วัดความสุขของประชาชน
ตามหลักคำสอนของพระพุทธศาสนา. รายงานการวิจัย. สถาบันวิจัยวิจัยพุทธศาสตร์มหาจุฬา
ลงกรณ์ราชวิทยาลัย.
ภูวดล ศิริพงษ์. (2549). ความสุขมวลรวมประชาชาติกับการพัฒนา. วารสารโรงเรียนนายเรือ. 6(4), 41-47.
ศุภเจตน์ จันทร์สาส์น. (2556). คุณภาพชีวิตของคนไทย : นัยจากดัชนีการพัฒนามนุษย์. วารสารนักบริหาร.
(4), 46-54.
. (2556). ความอยู่ดีมีสุขของผู้สูงอายุในครอบครัวสูงวัยในประเทศไทย. วารสารปัญญาภิวัฒน์. 4(2),
-103.
สามารถ บุญรัตน์. (2558). การปฏิรูประบบราชการภายใต้มาตรา 44. ใน รายงานสืบเนื่องจากการประชุมทาง
วิชาการรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์แห่งชาติ ครั้งที่ 15 (น. 156-167). คณะรัฐศาสตร์และ
นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
สิริมา ศิริมาตยนันท์ และคะนอง ปาลิภัทรางกูร. (2554). ภูฏานกับจุดยืนความสุขมวลรวมประชาชาติ
บนเวทีโลก (Bhutan and Its Positioning of “Gross National Happiness” in the World).
วารสารนักบริหาร. 31(4), 224-231.
เสาวลักษม์ กิตติประภัสร์, อรณิชา สว่างฟ้า, กนกพร นิตย์นิธิพฤทธิ์ และณัฏฐาภรณ์ เลียมจรัสกุล. (2553).
พัฒนาการแนวคิดเรื่อง ความสุขที่เกี่ยวข้องกับประโยชน์สุข และเศรษฐกิจพอเพียง. กรุงเทพฯ:
Internation Research Associates for Happy Societies
สำนักยุทธศาสตร์และงบประมาณ เมืองพัทยา. (2560). แผนพัฒนาเมืองพัทยา (พ.ศ. 2561 – 2565). ชลบุรี:
สำนักยุทธศาสตร์และงบประมาณ เมืองพัทยา.
Barrett, R. (2014). The Values-Driven Organization: Unleashing Human Potential for
Performance and Profit. New York: Routledge, Taylor & Francis Group.
Frey, B., & A. Stutzer. (2002). Happiness and economics: How the economy and institutions
affect well-being. Princeton, NJ: Princeton University Press.
Galay, K. (ed.). (1999). Gross national happiness – A set of discussion papers. Thimphu,
Bhutan: The Centre for Bhutan Studies.
Maslow, A. H. (1943). A Theory of Human Motivation. Psychological Review. 50(1), 370-396.
Tideman, S. G. (2011). Gross National Happiness. In: ZSOLNAI, Laszlo (ed.). Ethical Principal
and Economic Transformation – A Buddhist Approach. Dordrecht: Springer
Science+Business Media B.V.
Ura, K., & K. Galay (eds.). (2004). Gross national happiness and development. Thimphu,
Bhutan: The Centre for Bhutan Studies. See also www.grossnationalhappiness.org.
Wangchuk, J.S. (1972). Gross national happiness is more important than gross national
product. (online). Available: http//www.google.com. Retrived April 7, 2021.
Yamane, Taro. (1967). Statistics: An Introductory Analysis. (2nd ed.). New York: Haper and
Row.