ความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้การสนับสนุนจากองค์การกับความยืดหยุ่นทางอารมณ์และจิตใจของพนักงานปฏิบัติงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัทเอกชน ในเขตกรุงเทพมหานคร

Main Article Content

ณัฐธัญภัคสร ศิริไปล์
สุนทรี ศักดิ์ศรี

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับการรับรู้การสนับสนุนจากองค์การและความยืดหยุ่นทางอารมณ์และ จิตใจของพนักงาน และ 2) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้การสนับสนุนจากองค์การและความยืดหยุ่นทางอารมณ์และจิตใจของพนักงาน โดยกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาวิจัยเป็นพนักงานปฏิบัติงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัทเอกชน ในเขตกรุงเทพมหานคร รวมจำนวน 399 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือแบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลประกอบด้วยค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานและค่าสัมประสิทธ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน ผลการวิจัยพบว่า 1) พนักงานปฏิบัติงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศในเขต กรุงเทพมหานครมีการรับรู้การสนับสนุนจากองค์การอยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.14 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.39 และความยืดหยุ่นทางอารมณ์และจิตใจอยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.05 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.49  2) การรับรู้การสนับสนุนจากองค์การโดยรวมมีความสัมพันธ์กับความยืดหยุ่นทางอารมณ์และจิตใจของพนักงานปฏิบัติงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศในเขตกรุงเทพมหานคร อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยมีความสัมพันธ์ในระดับต่ำที่สุด (r=.154) คิดเป็นร้อยละ 2.37

Article Details

บท
Research Articles

References

กรมสุขภาพจิต. (2552). แผนยุทธศาสตร์กรมสุขภาพจิต ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 (2550-2554). กรุงเทพมหานคร : บริษัทละม่อมจํากัด.

กัลยา วานิชย์บัญชา และฐิตา วานิชย์บัญชา. (2558). การใช้ SPSS for Windows ในการวิเคราะห์ข้อมูล (พิมพ์ครั้งที่ 27). กรุงเทพมหานคร : สามลดา.

ชัยวัฒน์ สุทธิรัตน์. (2554). การจัดการเรียนรู้ตามสภาพจริง Authentic Learning. กรุงเทพมหานคร : สหมิตรพริ้นติ้งแอนด์พับลิสซิ่ง.

บุญธรรม กิจปรีดาบริสุทธิ์ และพิสมัย เสรีขจรกิจเจริญ. (2560). ระเบียบวิธีการวิจัยทางการสาธารณสุข : กรณีศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร. กรุงเทพมหานคร : จามจุรีโปรดักท์.

พงษ์เทพ สันติกุล. (2560). การวิจัยทางวิทยาศาสตร์สังคม สำหรับนักศึกษาและผู้ปฏิบัติงานสวัสดิการสังคมและสังคมสงเคราะห์. กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

ไพศาล วรคำ. (2559). การวิจัยทางการศึกษา. มหาสารคาม : ตักสิลาการพิมพ์.

มุทิตา คงกระพันธ์. (2554). การศึกษาอิทธิพลของการรับรู้ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล การรับรู้การสนับสนุนจากองค์กรผ่านความผูกพันต่อองค์กร และความพึงพอใจในงานที่มีต่อผลการปฏิบัติงานตามบทบาทหน้าที่ (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยศิลปากร, นครปฐม.

ยุทธ ไกยวรรณ์ และกมลพรรณ ไกยวรรณ์. (2562). ระเบียบวิธีวิจัยทางด้านการโรงแรมและการท่องเที่ยว. กรุงเทพมหานคร :สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

สำนักงานสถิติแห่งชาติ. (2560). สรุปผลที่สําคัญผู้ทํางานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร พ.ศ. 2560. กรุงเทพมหานคร : สำนักงานสถิติแห่งชาติ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม.

ธีรวุฒิ เอกะกุล. (2543). ระเบียบวิธีวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์และสังคมศาสตร์. อุบลราชธานี : สถาบันราชภัฎอุบลราชธานี.

Cronbach, L. J. (1990). Essentials of Psychological Testing. New York : Harper and row publishers.

Cochran, W. G. (1977). Sampling Techniques. 3rd Edition. New York : John Wiley & Sons.

Eisenberger, R., Stinglhamber, F., Vandenberg, C., Sucharski, I.L. and Rhoades, L. (2002 a). Perceived Supervisor Support : Contributions to Perceived Organizational Support and Employee Retention. Journal of applied psychology, 87(4), 565-573.

________. (2002 b). Perceived organizational support : A review of literature. Journal of applied psychology, 87, 698-714.

Greenberg., J. (1990). Organizational Justice: Yesterday, Today, and Tomorrow. Journal of Management, 16, 399-432.

Grotberg, E. H. (1995). A guide to promoting resilience in children : strengthening the human spirit. The International Resilience Project. New York : Bernard van Leer Foundation.

Nguyen, Q., Kuntz, J. R. C., Naswall, K., and Malinen, S. (2016). Employee resilience and leadership styles. New Zealand Journal of Psychology, 45(2), 13-21.

Rhoades L, and Eisenberger R. (2002). Perceived Organizational Support: A Review of the Literature. Journal of Applied Psychology, 87(4), 698-714.

Sweetman, D. and Luthans, F. (2010). Relationship between Positive Psychological Capital and Creative Performance. Canadian Journal of Administrative Science, 28, 4-13.