การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ด้านการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้กลยุทธ์ QAR สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ด้านการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนอนุบาลกำแพงแสน ก่อนและหลังเรียนโดยใช้เครื่องมือที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น 2) ศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการพัฒนาผลสัมฤทธิ์การอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้กลยุทธ์ QAR กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/3 ปีการศึกษา 2566 โรงเรียนอนุบาลกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม จำนวน 40 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ 1) แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์การอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้กลยุทธ์ QAR 2) แบบทดสอบวัดระดับผลสัมฤทธิ์การอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ และ 3) แบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการพัฒนาผลสัมฤทธิ์การอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้กลยุทธ์ QAR สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย (x̄) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และ t-test แบบไม่เป็นอิสระต่อกัน ผลการวิจัยครั้งนี้ พบว่า 1) ผลสัมฤทธิ์การอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้กลยุทธ์ QAR หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2) ระดับความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการพัฒนาผลสัมฤทธิ์การอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้กลยุทธ์ QAR โดยรวมอยู่ในระดับ มาก
Article Details
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1.บทความที่ตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการศิลปศาสตร์ประยุกต์ การนำเนื้อหา ข้อความหรือข้อคิดเห็น รูปภาพ ตาราง ของบทความไปจัดพิมพ์เผยแพร่ในรูปแบบ ต่าง ๆ เพื่อใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ ต้องได้รับอนุญาตจากกองบรรณาธิการวารสารอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร
2.ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่อง เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับวารสารวิชาการศิลปศาสตร์ประยุกต์ และบุคลากร คณาจารย์ท่านอื่น ๆ ในวารสารฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
เอกสารอ้างอิง
Anderson (1984). "A model of the distributor's perspective of distributor-manufacturer working relationships."
Journal of marketing 48(4): 62-74.
Anderson , R. C. (1985). "Becoming a nation of readers: The report of the Commission on Reading." 82-83.
Bartlett (1932). "Disparate effects of repeated testing: Reconciling Ballard's (1913) and Bartlett's (1932) results."
Psychological Science 3(4): 240-246.
Borich (2004). Educational assessment for the elementary and middle school classroom, Prentice Hall.
Brophy และ Good (1986). "Teacher influences on student achievement." American psychologist 41(10): 1069.
Canava and Hechman (2020). Embodiment and the cosmic perspective in twentieth-century fiction, Routledge.
Carrell and Eisterhold (1983). "Schema theory and ESL reading pedagogy." TESOL quarterly 17(4): 553-573.
Coady (1992). Testimony: A philosophical study, Clarendon Press.
Cunningham (1975). "The effects of redshifts and focusing on the spectrum of an accretion disk around a Kerr
black hole." Astrophysical Journal, vol. 202, Dec. 15, 1975, pt. 1, p. 788-802. 202: 788-802.
Davey and McBride (1986). "Effects of question-generation training on reading comprehension." Journal of
Educational Psychology 78(4): 256.
Dhea Ayuda Pratiwi (2019). The Effect of Using Question Answer Relationship (QAR) Strategy to Students
Reading Comprehension of First Year at Senior High School 5 Pekanbaru, Universitas Islam Riau.
Eskey (2005). Reading in a second language. Handbook of research in second language teaching and learning,
Routledge: 563-579.
Fink (2003). "Literature Circles: Getting Started."
Franklin Untailawan (2020). "Improving students’ reading comprehension and critical thinking skills through the
implementation of qar strategy at SMA PGRI dobo." Soshum: Jurnal Sosial Dan Humaniora 10(1): 93-103.
Gattis , M. (2002). "Structure mapping in spatial reasoning." Cognitive Development 17(2): 1157-1183.
Goodman (1972). "A general model for the analysis of surveys." American journal of sociology 77(6): 1035-
Harmer, J. (2008). How to teach English, Oxford University Press.
King and Rosenshine (1993). "Effects of guided cooperative questioning on children's knowledge construction."
The Journal of Experimental Education 61(2): 127-148.
Mary (2006). "The Safety Attitudes Questionnaire: psychometric properties, benchmarking data, and emerging
research." BMC health services research 6: 1-10.
Nuttall (1996). "Reading and recognition in three South African women's autobiographies." Current Writing: Text
and Reception in Southern Africa 8(1): 1-18.
Rivers (1972). ITL - International Journal of Applied Linguistics.
Smetana and Wilson (2009). "Investigating content area teachers understanding of a content literacy
framework: A yearlong professional development initiative." Journal of Adolescent & Adult Literacy 52(8):
-718.
Taxonomy, B. (1956). "A revision of Bloom's taxonomy: An overview." Theory into practice 41(4): 212-218.
กานต์มณี ศักดิ์เจริญ (2546). "The Development of Reading Comprehension Ability through Exercises Based on 6-
Step Ladder Technique for Students in Mathayomsuksa 1 of Marie Upatham Chaiyaphum School." RMUTP
Research Journal Humanities and Social Sciences 9(1): 17-28.
มณีรัตน์ สุกโชติรัตน์ (2547). "การพัฒนาชุดการสอนคำพื้นฐานประกอบรูปภาพจริงเรื่องชีวิตประจำวันเพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน
การเขียนคำพื้นฐานระดับประถมศึกษาสำหรับเด็กที่มีความต้องการพิเศษ."
รพีพรรณ กีตา (2543). "ผลของการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรง
เรียนอัสสัมชัญศึกษา." 6(3): 438-446.
วรากรณ์ สามโกเศศ (2554). "การพัฒนารูปแบบการพัฒนาครูโดยใช้แนวคิดชุมชนกาเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อการอ่านออกเขียนได้
ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลอินทปัญญาวัดใหญ่อินทาราม: A Development of the Teachers’ Development
Model Using the Concept of a Professional Learning Community for Literacy among Students of
Inthapanya Municipality School Wat Yai Intharam." HRD JOURNAL 13(1): 75-93.
สถิรพร รักษ์คำภีร์ (2560). DEVELOPMENT OF ENGLISH READING COMPREHENSION SKILLS USING QAR FOR FIRST-
YEAR STUDENTS, Silpakorn University.
สมุทร เซ็นเชาวนิช (2542). "ผลของการใช้วิธีสอนอ่านแบบบูรณาการของเมอร์ดอกช์ (MIA) ที่มีต่อการพัฒนาความสามารถด้าน
การอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4." มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา 11(2): 175-
สุนันทา มั่นเศรษฐวิทย์ (2545). "การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยวิธีการสอนอ่านแบบ SQ4R เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านจับ
ใจความสำคัญกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6." วารสาร วิชาการ Northern 8(2): 53-
สุพรรษา ศรประเสริฐ (2558). การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนอ่านภาษาอังกฤษตามทฤษฎีโครงสร้างความรู้และแนวคิดการ
สอนแบบแลกเปลี่ยนบทบาทระหว่างครูกับนักเรียนเพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนระดับ
มัธยมศึกษาตอนปลาย สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน ภาควิชาหลักสูตรและการสอน คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัย.
