อิทธิพลของความสามารถในการเผชิญและฟันฝ่าอุปสรรค วัฒนธรรมองค์การ และคุณลักษณะงานที่มีผลต่อพฤติกรรมการเป็นสมาชิกที่ดีขององค์การของพนักงานมหาวิทยาลัยสายสนับสนุน สังกัดมหาวิทยาลัยในกรุงเทพมหานคร
Main Article Content
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาอิทธิพลของความสามารถในการเผชิญและฟันฝ่าอุปสรรค วัฒนธรรมองค์การ และคุณลักษณะงานที่มีผลต่อพฤติกรรมการเป็นสมาชิกที่ดีขององค์การของพนักงานมหาวิทยาลัยสายสนับสนุน สังกัดมหาวิทยาลัยในกรุงเทพมหานคร กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ พนักงานมหาวิทยาลัยสายสนับสนุน ที่ปฏิบัติงานสังกัดมหาวิทยาลัยในกรุงเทพมหานคร จำนวน 400 คน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติ สถิติที่ใช้ได้แก่ สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน ผลการวิจัยพบว่า ความสามารถในการเผชิญและฟันฝ่าอุปสรรค วัฒนธรรมองค์แบบเครือญาติ วัฒนธรรมแบบมุ่งความสำเร็จ วัฒนธรรมแบบราชการ คุณลักษณะของงานด้านความโดดเด่นของงาน และคุณลักษณะของงานด้านความสำคัญของงานสามารถร่วมกันพยากรณ์พฤติกรรมการเป็นสมาชิกที่ดีขององค์การของพนักงานมหาวิทยาลัยสายสนับสนุน สังกัดมหาวิทยาลัยในกรุงเทพมหานครได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยสามารถพยากรณ์พฤติกรรมการเป็นสมาชิกที่ดีขององค์การได้ร้อยละ 86.9 (R2 = .869) และมีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์พหุเท่ากับ .932 (R)
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1.บทความที่ตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการศิลปศาสตร์ประยุกต์ การนำเนื้อหา ข้อความหรือข้อคิดเห็น รูปภาพ ตาราง ของบทความไปจัดพิมพ์เผยแพร่ในรูปแบบ ต่าง ๆ เพื่อใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ ต้องได้รับอนุญาตจากกองบรรณาธิการวารสารอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร
2.ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่อง เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับวารสารวิชาการศิลปศาสตร์ประยุกต์ และบุคลากร คณาจารย์ท่านอื่น ๆ ในวารสารฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
เอกสารอ้างอิง
ภาษาไทย
กรรณิการ์ แก้วอยู่ และทิพย์วัลย์ สุรินยา. (2566). ความสามารถในการฟันฝ่าอุปสรรค ความฉลาดทางอารมณ์ กับการปรับตัวของพนักงานบริษัทเงินติดล้อ สำนักงานใหญ่ กรุงเทพมหานคร. วารสารสังคมศาสตร์วิจัย, 14(2), 17-35.
ขวัญฤทัย ม่วงกลิ้ง และอริสา สำรอง. (2560). ความสัมพันธ์ระหว่างความสามารถในการเผชิญปัญหาและฟันฝ่าอุปสรรค ความสุขในการทำงาน การรับรู้การสนับสนุนจากองค์การ ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการเป็นสมาชิกที่ดีขององค์การของบุคลากรสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ. วารสารดุษฎีบัณฑิตทางสังคมศาสตร์, 7(3), 122–132.
ชนม์ขนิษฐ์ วิศิษฎ์สมบัติ ประพันธ์ ชัยกิจอุราใจ และพีระพงษ์ กิติเวชโภคาวัฒน์. 2562. “ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการเป็นสมาชิกที่ดีขององค์การของบุคลากรในมหาวิทยาลัย.” วารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์, 13 (1), 37-50.
ณัชชา ธงชัย. (2563). ลักษณะงานและความผูกพันต่อองค์การที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการเป็นสมาชิกที่ดีต่อองค์การและคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานเอกชนในเขต กรุงเทพมหานคร. สารนิพนธ์บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (วิชาการจัดการ). มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
พีระวรรณ สุวรรณลาภ. (2558). ความสามารถในการเผชิญและฟันฝ่าอุปสรรค การรับรู้ความยุติธรรมในองค์การ และความตั้งใจลาออกจากงาน : กรณีศึกษาพนักงานฝ่ายขายของสายการบินแห่งหนึ่ง. ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
ภานุวัฒน์ กิตติกรวรานนท์ รัตนพิมลพลแสน และชคัตตรัย รยะสวัสดิ์. (2564). สมรรถนะบุคลากรสายสนับสนุน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน. วารสารราชพฤกษ์, 19(1), 86-98.
วิภาดา ช่วยรักษา และอินท์ชลิตา สุวรรณรังสิมา. (2564). การศึกษาปัญหาการขอตำแหน่งทางวิชาการของบุคลากรสายสนับสนุน คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล. วารสาร Mahidol R2R e-Journal, 8(3), 171-184.
ศุจินันท์ พูลสวัสดิ์, และ แอนนา จุมพลเสถียร. (2563). การเปิดรับสื่อความรู้ทัศนคติและแนวโน้มพฤติกรรมของประชาชนที่มีต่อกองบัญชาการกองทัพไทย. วารสารนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมนิด้า, 1(7), 83-102.
สุวรรณี จริยพร. (2559). พฤติกรรมการเป็นสมาชิกที่ดีต่อองค์การของบุคลากรวิทยาลัยทองสุข. วารสารสมาคมนักวิจัย, 21(1), 227-237.
หทัยทิพย์ อภิวงค์งาม. (2560). การศึกษาความสัมพันธ์ของการรับรู้ความยุติธรรมในองค์การและพฤติกรรมการเป็นสมาชิกที่ดีขององค์การ ผ่านตัวแปรสื่อการรับรู้การสนับสนุนจากองค์การโดยมีความต้องการส่วนบุคคลเป็นตัวแปรกำกับ. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
อภิญญา หิรัญวงษ์. (2557). สถิติประยุกต์ทางจิตวิทยา. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
ภาษาอังกฤษ
Barney, J. B. (1986). “Organizational Culture: Can It Be a Source of Sustained Competitive Advantage.” Academy of Management Review. 11, 656 -665.
Baron, R. A. and J. Greenberg. (1990). Behavior in Organization. New York: Allyn and Bacon.
Cameron, K. S. and Q. Robert. (2006). Diagnosing and Changing Organization Culture:Based on the Competing Values Framework. Sanfrancisco, CA: Jossey-Bass.
Cropanzio, R. and Härtel, H. H. (2003). The process of creating citizenship behavior: A cross-sectional multilevel analysis. Journal of Management, 29(4), 425-457.
Denison, D. R. (1990). Corporate Culture and Organizational Effectiveness. New York: Wiley.
Hackman, J. and O. Greg. (1975). “Development of the job diagnostic survey.” Journal of Applied Psychology. 60, 159-170
Hackman, J. and O. Greg. (1980). Work Redesign. New York: Addison-Wesley Publishing Company Inc.
Kuenzi, T. and U. Oertel. (2005). Organizational culture and citizenship behavior: A multilevel analysis. Journal of Applied Psychology, 90(3), 596-614.
Krejcie, R.V. and M. Daryle W. (1970). Determining sample size for research activities. Educational and Psychological Measurement, 30, 607-610
Organ, D. W. and T. Bateman. (1991). Organizational Behavior (4th ed.). Homewood: Irwin
Stoltz, P. G. (1997). Adversity Quotient: Turning obstacles into opportunity. New York: John Wiley and sons Inc.